สถานที่ท่องเที่ยวในเซ็นได

เซ็นได เมืองน่าเที่ยวเมืองหนึ่งในญี่ปุ่น แต่เมื่อปี 2011 ได้เมืองแห่งนี้เจอกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่อย่างคลื่นยักษ์สึนามิที่สูงถึง 10 เมตรเข้าทำลายเมืองแห่งนี้จนได้รับความเสียหายมากมายส่งผลถึงการท่องเที่ยว แต่เพียงไม่นานเซ็นไดได้รับการฟื้นฟูและการท่องเที่ยวของเซ็นไดก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง จุดหมายครั้งนี้ขอนำเสนอเซ็นได จะน่าสนใจอย่างไรไปอ่านกันเลย





เซ็นได


เซ็นได (Sendai) ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยากิ (Miyagi Ken) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ เดิมชื่อเมืองคือ มัตสึ (Mutsu) เมื่อตระกูลดาเตะเข้ามาปกครองจึงเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็นได ที่แปลว่า พันชั่วคน เซ็นไดอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวราว 350 กิโลเมตร เซ็นไดได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งต้นไม้ เนื่องด้วยถนนหลายสายปลูกต้นไม้เรียงเป็นแถวเขียวขจี เซ็นไดมีทำเลที่เหมาะกับการใช้เป็นที่พักสำหรับการไปเที่ยวเมืองอื่นๆ โดยรอบ รวมทั้งแวะพักระหว่างจะไปหรือกลับจากฮอกไกโด ด้วยมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่หลากหลายและคุ้มค่ากว่าเมืองอื่นๆ

แผนที่เซ็นได





สุสานซุยโฮเด็ง (Zuihoden)


สุสานซุยโฮเด็ง (Zuihoden)

สุสานซุยโฮเด็ง (Zuihoden) เป็นสุสานของท่านดาเตะ มาซามุเนะ ไดเมียวผู้สร้างเมืองเซ็นได ตัวสุสานมีอาคารสร้างครอบไว้ ซึ่งตัวอาคารนั้นมีความสวยงามด้วยลวดลายที่วิจิตรสวยงามซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโมโมยามะ ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้างๆ กันมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสมบัติที่ขุดพบในหลุมฝังศพ อาทิ หมวก กระบี่ เครื่องประดับ เป็นต้น ไม่ไกลมากนักสามารถเดินไป สุสานเซ็นโนเด็ง (Zennoden) สุสานของท่านดาเตะ ซึนามุเนะ และสุสานคันเซ็นเด็ง (Kansenden) สุสานของท่านดาเตะ ทาดะทุเนะ ผู้ปกครองเมืองเซ็นได รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 ซึ่งสุสานทั้งสองแห่งก็มีความสวยงามไม่แพ้สุสานซุยโฮเด็งเลย





ปราสาทเซ็นได (Site of Sendai Castle)


ศาลเจ้าโกโคคุ (Gokoku Shrine)

ปราสาทเซ็นได (Site of Sendai Castle) หรือปราสาทอาโอบะ (Aobajo) แปลว่าปราสาทใบไม้สีเขียว ปราสาทสร้างขึ้นบนยอดเขาอาโอบะ เมื่อไดเมียวดาเตะ มาซามุเนะ ได้ย้ายมาจากเมืองอิวาเดะยามะ โดยมองว่าที่นี่เหมาะกับการเป็นฐานที่มั่นในการปกครองเมืองซึ่งยาวนานถึง 270 ปี จนเมือตระกูลดาเตะล่มสลายพร้อมกับการปกครองในระบบศักดินาถูกทำลายตัวปราสาทก็ถูกทำลายลงไปด้วย ปัจจุบันเหลือเพียงกำแพงหินสูงบางส่วน เมื่อผ่านประตูเข้ามาจะพบกับตรอกพิพิธภัณฑ์ของปราสาทและร้านค้าขายของฝากเข้ามาอีกมีศาลเจ้าโกโคคุ (Gokoku Shrine) ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้สละชีวิตในช่วงสงคราม

อนุสาวรีย์ท่านไดเมียวดาเตะ ซามามุเนะ

แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมชมอนุสาวรีย์ของท่านไดเมียวตาเดียวในท่าขี่ม้าถือดาบสวมหมวก ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินปราสาท ซึ่งเมื่อสมัยวัยเด็กท่านเป็นโรคฝีดาษแล้วแผลลามเข้าตา ด้วยความใจเด็ดของท่านจึงควักตาออกด้วยมือของตัวเอง รวมทั้งท่านยังเป็นไดเมียวฝีมือเอกผู้รับใช้โชกุนฮิเดะโยชิและโชกุนอิเอยาสึ จากตำแหน่งที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของท่านเมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์เซ็นไดได้ทั้งเมือง และวิวแม่น้ำฮิโรเสะ (Hirose River) อยู่เบื้องหน้า





ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ (Osaki Hachimangu Shrine)


ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ (Osaki Hachimangu Shrine)

ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ (Osaki Hachimangu Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยความประสงค์ของท่านมาซามุเนะ เพื่อให้เป็นศาลเจ้าที่ปกปักษ์คุ้มครองเมืองเซ็นได โดยรวบรวมศิลปินจิตรกรฝีมือดีในยุคนั้นมาร่วมกันสร้างศาลเจ้า ซึ่งถือเป็นต้นแบบของศิลปะที่ใช้กับสุสานของท่านดาเตะ มาซามุเนะ ด้วย ชาวเมืองเซ็นไดมักจะมาขอพรจากศาลเจ้าแห่งนี้ 

ซุ้มประตูโทริอิหน้าศาลเจ้า

ซึ่งอาคารศาลเจ้านั้นหลังคาจะเป็นสีดำ ประดับด้วยทอง และสีสันอื่นๆ จนมองแล้วกลายเป็นเสน่ห์ของศิลปะแบบยุคตระกูลดาเตะที่สวยงามน่ามองแตกต่างศาลเจ้าอื่นๆ ในญี่ปุ่น หากสังเกตตัวหนังสือชื่อศาลเจ้าที่บนซุ้มประตูโทริอิ ตัวอักษรด้านบนสุดจะดูคล้ายนกสองตัวแม่ลูกหันหน้าเข้าหากัน ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติแล้ว
 



เซ็นไดมีเดียเธค (Sendai Mediatheque)


เซ็นไดมีเดียเธค (Sendai Mediatheque)

เซ็นไดมีเดียเธค (Sendai Mediatheque) เป็นอาคารที่ทันสมัยมีตั้งอยู่บนถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori) มีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้น 2-4 เป็นห้องสมุดสมัยใหม่ เพราะสามารสืบค้นข้อมูลได้จากสื่ออิเล็กทรอนิคส์สมัยใหม่ ส่วนที่ชั้น 5-6 เป็นห้องแกลเลอรี่ เอาไว้จัดแสดงงานศิลปะและนิทรรศการต่างๆ และที่ชั้น 7 เป็นสตูดิโอผลิตสื่อวิดีทัศน์และภาพยนตร์ ที่ชั้น 1 เป็นพื้นประกอบกิจกรรมของชาวเมือง เซ็นไดมีเดียเธค จึงถือได้ว่าเป็นสมบัติของชาวเมืองเซ็นได





ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori)


ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori)

ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji-dori) อยู่ทางเหนือของตัวเมือง เป็นถนนกว้างที่สองข้างทางของถนนนี้เต็มไปด้วยต้นเคยากิหรือเซลโควา ทำให้ท้องถนนดูเขียวขจี บรรยากาศร่มรื่นชวนเดินเล่น ตรงกลางถนนก็มีงานปฏิมากรรมบรอนซ์ตั้งให้ชมเป็นระยะๆ นอกจากถนนเส้นนี้แล้ว ถนนในเมืองเส้นอื่นๆ ก็เขียวขจีด้วยต้นไม้แบบนี้เหมือนกัน เมืองเซ็นไดจึงได้ชื่อว่าเมืองแห่งต้นไม้ นักท่องเที่ยวและผู้คนในเมืองมักจะออกมาเดินเล่นและถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่สวยงามไว้





วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)


วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1984 ที่ยานากาว่า จังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งดาเตะ โมชิมุเนะ ได้ปกครองเมืองนั้นอยู่ จนเมืองดาเตะ มาซามุเนะ ได้ย้ายมาปกครองเมืองเซ็นได จึงได้ย้ายวัดแห่งนี้มาด้วย โดยตั้งไว้บนเนินเขาด้านเหนือของเมือง เมื่อ พ.ศ.2145 เป็นวัดในนิกายเซนและเป็นวัดประจำตระกูลดาเตะ บริเวณภายในวัดมี พระพุทธรูปหิน ศาลาชงชาและสวนญี่ปุ่นแบบเซน เจดีย์ 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมสระน้ำ จากสถานีรถไฟเจอาร์คิตะยามะ เดินตามทางมาราว 20 นาทีจะถึงประตูทางเข้า เรียกว่า ประตูเดยะ (Deya Gate) สองข้างทางเดินไปยังตัววัดมีพระพุทธรูปหินประดับไว้ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ





สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเซ็นได


1. Sendai City Museum ภายในจัดแสดงสมบัติของตระกูลดาเตะ ที่ตกทอดมาจำนวนมากถึง 80,000 ชิ้น หลายชิ้นถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติสำคัญของชาติ

2. Tohoku University Botanic Gardens สวนพฤษศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโทโฮกุ มีพันธุ์ไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ สวนนกและสวนสัตว์เล็กๆ ให้ชม

3. Museum of Natural History, Tohoku University พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติวิทยาของมหาวิทยาลัยโทโฮกุ จัดแสดงผลงานการวิจัยและศึกษาความเป็นไปของธรรมชาติ

4. The Miyagi Museum of Art เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของจังหวัดมิยากิ มีผลงานศิลปะของศิลปินทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกจำนวนมากกว่า 4,000 ชิ้นจัดแสดงให้ชม

5. ตึก AER เป็นตึกที่สูงที่สุดในเซ็นได อยู่ทางด้านเหนือของสถานีเจอาร์เซ็นได ภายในตึกมีร้านค้าและร้านอาหาร สามารถขึนไปจุดชมวิวที่ยังชั้น 31 ได้ฟรี




จองโรงแรมใน เซนได มัตสึชิมะ กับผู้ให้บริการที่คุณไว้วางใจ
พร้อมส่วนลดสูงสุด 10 - 70%
เช็คห้องว่างและคอนเฟิร์มได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง
 





ขอบคุณภาพประกอบจาก
mappery.com ,Snuffy ,en.japantravel.com ,commons.wikimedia.org
alafista.com ,kubo.rift.mech.tohoku.ac.jp ,japan-guide.com