แหล่งท่องเที่ยวเมืองคานาซาวา ประเทศญี่ปุ่น


เมืองคานาซาวาเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอิชิกาวา มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ที่ตั้งของตัวเมืองคานาซาวาตั้งอยุ่ระหว่างแม่น้ำไซกับแม่น้ำอาซาโนะ บริเวณใจกลางเมืองคานาซาวาจะมีสวนปราศาทคานาซาวาและสวนเค็นโรคุเอ็น ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สวนที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริเวณรอบๆ สวนถูกล้อมรอบด้วยย่านการค้า ได้แก่ โครินโบ คาทามาจิ มูซาชิ และ บริเวณสถานีรถไฟคานาซาวา



ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวที่หลงไหลในเสน่ห์ของเมืองคานาซาวากว่า 7 ล้านคน เดินทางมาที่นี่เพื่อมาชมความงดงามในแง่มุมต่างๆ

ร้านราเม็ง "ฮาชิบัง ราเม็ง" ที่มีสาขา 80 กว่าแห่งในประเทศไทย มีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดอิชิกาวา และ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองคานาซาวา แห่งนี้


แผนที่ที่ตั้งเมืองคานาซาวา


สำหรับภูมิอากาศของเมืองคานาซาวา ส่วนใหญ่จะอบอุ่นคล้ายกับโตเกียวและโอซากา แต่ระหว่างเดือนธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์อากาศจะหนาวเย็นและมีหิมะตกจนปกคลุมเมือง แต่อุณหภูมิส่วนใหญ่จะไม่ถึงขนาดติดลบ แต่ก็หนาวเอาการเลยทีเดียว




แหล่งท่องเที่ยวเมืองคานาซาวา

1. สวน Kenroku-en
สวนเค็นโรคุเอ็น เป็นสวนแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเนินข้างปราสาทคานาซาวาในใจกลางเมืองคานาซาวา ถูกสร้างขึ้นในระหว่างสมัยเอโดะ (พ.ศ. 2143 - 2410) โดยเจ้าเมืองตระกูลมาเอดะ ผู้ปกครองแคว้นคากะหลายรุ่น สวนมีความสวยงามและกว้างใหญ่ จึงได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสวนเลื่องชื่อที่สุดของประเทศญี่ปุ่น


ในสวนมีการขุดสระน้ำขนาดใหญ่ มีเนินเขาและร้านน้ำชาอยู่ในหลายจุด ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเดินเที่ยวชมจุดต่างๆ ทั่วสวนได้ตามเส้นทาง ในสระน้ำใหญ่ "คาซุมิกะอิเคะ" ที่เปรียบเสมือนกับผืนทะเลใหญ่ มีเกาะซึ่งกล่าวกันว่าเป็นที่พำนักของฤาษีที่อยู่ยงคงกระพัน จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญ รุ่งเรืองตลอดกาล และ อายุยืนยาว ชื่อของสวนเค็นโรคุเอ็นหมายถึงสวนที่มีคุณลักษณะครบ 6 อย่าง โดยตั้งชื่อตามหนังสือจัน "สวนเลื่องชื่อในเมืองลั่วหยาง" ซึ่งกล่าวถึงสวนในอุดมคติว่าสวนแต่ละแห่งควรประกอบไปด้วยคุณลักษณะ 6 อย่าง ได้แก่ ความกว้างใหญ่ ความเงียบสงบ การสร้างสรรโดยมนุษย์ ความเก่าแก่ ทางน้ำและทิวทัศน์

ตามริสระน้ำคาซุมิกะอิเคะ มีโคมไฟหินที่ถูกออกแบบตามลักษณะหย่องที่หนุนสายสำหรับปรับเสียงของ "โคโตะ" เครื่องดนตรีดั้งเดิมของญี่ปุ่น น้ำพุซึ่งมีต้นน้ำจากสระน้ำคาซุมิกะอิเคะนั้น เกิดจากความดันน้ำตามธรรมชาติเนื่องจากระดับน้ำที่แตกต่างกัน ผู้มาเยือนจะสามารถสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติได้ทั้งสี่ฤดู

ในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกบ๊วยและซากุระ
ในช่วงต้นฤดูร้อนจะมีดอกอาซาเลียและไอริส
ในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสี
ในฤดูหนาวจะสามารถชมหิมะปกคลุมต้นสนที่ถูกขึงเชือกยันกิ่งไม้ไว้ เพื่อปกป้องจากหิมะประมาณ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนทุกปี ซึ่งเป็นทัศนียภาพทีสวยงามมากๆ

เวลาเปิดบริการ : 07.00 - 18.00 น. ( วันที่ 16 ตุลาคม ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 08.00 - 17.00 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน , เด็กอายุ 6 - 18 ปี 100 เยน , ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป เขาฟรี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : +81-76-234-3800







2. ตลาดโอมิโช (Omicho Market)
ตลาดโอมิโช เป็นตลาดเก่าแก่ของเมืองคานาซาวาที่มีอายุยาวนานกว่า 280 ปี ที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งอาหารของชาวเมืองคานาซาวาตั้งแต่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2264 ภายในตลาดแห่งนี้มีร้านค้ามากกว่า 170 ร้าน ซึ่งร้านส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารทะเลสดจากทะเลญี่ปุ่น ร้านขายผักและผลไม้ ซึ่งรวมถึงผักพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองคานาซาวา ที่มีชื่อว่า "ผักคากะ" แต่ที่ไม่ควรพลาดคือร้านซูชิที่มีเมนูอาหารทะเลสดๆ เนี่ยแหละครับ



สำหรับปู ปลาเยลโลเทล และ กุ้งหวานจากทะเลญี่ปุ่นที่วางจำหน่ายตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนของทุกปีนั้น มักจะได้รับเสียงชื่นชมจากชาวญี่ปุ่นว่ามีรสชาติดีมากๆ และในช่วงเวลานั้นตลาดจะคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาซื้ออาหารทะเลที่ตลาดนี้กันเป็นจำนวนมากจากเมื่องต่างๆ

เวลาเปิดบริการ : 08.00 - 18.00 น. โดยประมาณ (เวลาเปิดบริการจะแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน)
วันหยุด : ช่วงปีใหม่ (ประมาณ 1-4 มกราคม) ช่วงวันไหว้บรรพบุรุษ (ช่วงก่อนถึงหลัง วันที่ 15 สิงหาคม) วันอาทิตย์และวันหยุดราชการมีร้านขายอาหารสดบางร้านหยุดบริการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : +81-76-231-1462






3. หมู่บ้านซามูไร ย่านนากามาจิ
ย่านนากามาจิเคยมีตำหนักของเสนาบดีแห่งแคว้นคากะ 2 ตระกูลจาก 8 ตระกูล และยังเป็นที่พักอาศัยของซามูไรระดับสูงและระดับกลาง ในสมัยต่อมาลักษณะของอาคารบ้านเรือนได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ทางเดินเล็กๆ กำแพงดินและประตูบ้านนากายะมอนแบบดั้งเดิมนั้นยังคงลักษณะเดิมไว้อยู่



กำแพงดินนั้นภายในเป็นหินกับดินอัดรวมกันในโครงไม้ ส่วนหลังคามุงด้วยแผ่นไม้ กำแพงดินบางส่วนมีอายุหลายสิบปี แต่ส่วนใหญ่ได้รับการบูรณะใหม่ ในฤดูหนาวจะมีการใช้เสื่อฟางคลุมกำแพงดินไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กำแพงดินหลุดลอกออกมาด้วยความชื้นจากหิมะ ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคม

ในย่านนากามาจิ มีบ้านเก่าแก่ที่สาามารถสัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่ของซามูไร ได้เปิดให้ชมหลายแห่ง

หมู่บ้านแห่งนี้มีลำคลองเก่าแก่ไหลผ่านชื่อว่า คลองโอโนะโซ ซึ่งในอดีตคลองนี้เคยทำหน้าที่ขนส่งสินค้าจากท่าเรือไปยังเมืองล้อมรอบปราสาท และ นับว่าเป็นคลองที่สำคัญมากๆ

บ้านของตระกูลโนมูระ : เปิดบริการ 08.30 - 17.30 น. (เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม ปิดเวลา 16.30 น.) หยุดวันที่ 26-27 ธนวาคม, ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน

บ้านของตระกูลทาคาดะ : เปิดบริการ 09.30 - 17.00 น. ไม่มีวันหยุด ค่าเข้าชมฟรี

หอเอกสารเกี่ยวกับทหารเดินเท้า : เปิดบริการ 09.30 - 17.00 น. ไม่มีวันหยุด ค่าเข้าชมฟรี

พิพิธภัณฑ์ร้านเก่าแก่เมืองคานาซาวา : เปิดบริการ 09.30 - 17.00 น. ไม่มีวันหยุด ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 เยน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : +81-76-232-5555







4. ปราสาทคานาซาวา
ปราสาทคานาซาวาเป็นปราสาทแห่งเจ้าเมืองตระกูลมาเอดะ ผู้ปกครองแคว้นคากะ เนื่องด้วยในอดีตตระกูลมาเอดะได้ทำการปกครองพื้นที่แถบนี้มาเป็นเวลานานกว่า 280 ปี โดยปราสาทคานาซาวาเป็นที่พำนักของตระกูลมาเอดะในช่วงเวลานั้น ในอดีตได้เกิดไฟไหม้ทำให้ส่วนสำคัญหลายๆ จุดของปราสาทแห่งนี้ถูกทำลายไป รวมถึงหอคอยใหญ่ของปราสาทซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ได้ถูกทำการสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ส่วนอื่นๆ ของปราสาทยังคงได้รับการซ่อมแซมและสร้างขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง



ในสมัยต่อมาาปราสาทได้กลายเป็นฐานที่มั่นของกองทัพบกซี่ปุ่น จากนั้นเปลี่ยนเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยคานาซาวา และ ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 ได้มีโครงการปรรับพื้นที่ให้เป็นสวนสาธารณะแทน ซึ่งรวมถึงการสร้างอาคารปราสาทไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตามรูปแบบเดิม

ในสมัยเอโดะ ปราสาทคานาซาวา เป็นป้อมปราการที่ถูกล้อมรอบไปด้วยคูน้ำและมีช่องกำแพงเพื่อใช้ยิงปินต่อสู้กับการรุกรานของศัตรูจากภายนอก

ปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปีเลยทีเดียว

เวลาเปิดบริการ : 07.00 - 18.00 น. (วันที่ 16 ตลาคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 08.00 - 17.00 น.)
ภายในฮิชิยากุระ โกจุเค็นนากายะ ฮาชิซิเมะมอนซึซึกิยากุระ และ ประตูคาโฮกุ เข้าชมได้เวลา 09.00 - 16.30 น. (ต้องเข้าก่อน 16.00 น.) และปิดระหว่างวันที่ 29 ธันวาคมถึงวันที่ 3 มกราคม

ค่าเข้าชม : ฟรี (ค่าเข้าชมภายในฮิชิยากุระ โกจุเค็นนากายะ และ ฮาชิซิเมะมอนซึซึกิยากุระ : ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็กอายุ 6-18 ปี 100 เยน , ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป ฟรี (ต้องแสดงเอกสารหลักฐาน) ส่วนการเข้าชมบริเวณประตูคาโฮกุ ไม่มีค่าใช้จ่าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : +81-76-234-3800







5. ย่านเกอิชา ฮิกาชิชะยะ
ย่านฮิกาชิชะยะ เป็นย่านเกอิชาที่ได้รับการบันทึกให้เป็น 1 ใน 2 ย่านเกอิชาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น

ชะยะเป็นร้านแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ให้บริการบันเทิง อาหารและเครื่องดื่มในสมัยเอโดะ สามารถชมการเต้นรำและร้องเพลงของเกอิชาได้ ร้านชะยะของเมืองคานาซาวาเคยตั้งกระจายอยู่ในใจกลางของเมืองมาก่อน แต่เมื่อ พ.ศ. 2363 ได้ย้ายมารวมกันอยู่ในย่านสถานบันเทิง 4 แห่ง ที่ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ที่ห่างจากใจกลางเมือง ในจำนวนนี้ที่ใหญ่ที่สุดคือ ย่านฮิกาชิชะยะ



ลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมของร้านชะยะคือ เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ซึ่งในสมัยก่อนสร้างได้เฉพาะพวกเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น ชั้นล่างด้านนอกเป็นตารางไม้ระแนงที่สวยงาม และ ชั้นบนมีห้องเสื่อทาทามิสำหรับลูกค้า เมื่อก้าวออกไปด้านหลังของร้าน จะมีตรอกเล็กๆ ราวกับเขาวงกต ซึ่งย่านเกอิชาที่ได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมนั้นมีเพียงกิออนในเกียวโตและที่นี่เท่านั้น

ปัจจุบันนี้ได้เปิดให้ชมภายใน "ชิมะ' และ "ไคคะโร" ซึ่งเป็นร้านชะชะที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 180 ปีก่อน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ได้รับการตกแต่งใหม่เป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ และ ร้านขายของที่ระลึก นักท่องเที่ยวยังสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามจากแม่น้ำอาซาโนะที่ไหลผ่านบริเวณนี้ จึงกล่าวได้ว่าย่านฮิกาชะชะยะเป็นย่านที่เพลิดเพลินในการเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น
นอกจากนี้สมาคมท่องเที่ยวแห่งเมืองคานาซาวาจะจัดการแสดงของเกอิชาในย่านเกอิชาภายในเมืองแห่งหนึ่งจาก 3 แห่งทุวันเสาร์ (ต้องจองล่วงหน้า)

ชิมะ : เปิดบริการ 09.00 - 18.00 น. ไม่มีวันหยุด , ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน
ไคคะโร : เปิดบริการ 09.00 - 17.00 น. ไม่มีวันหยุด , ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 700 เยน / ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และ ร้านขายของที่ระลึก เปิดบริการเวลาประมาณ 10.00 - 18.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม : +81-76-232-5555






6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยศตวรรษที่ 21 เมืองคานาซาวา
พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว ลักษณะของตัวอาคารเป็นทรงกลมคล้ายกับ UFO ร่อนลงจอดอยู่บนพื้นดิน ผนังทุกด้านเป็นกระจก มีทางเข้าออกถึง 4 ทาง ซึ่งถูกออกแบบให้ผู้มาเยี่ยมชมรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนสาธารณะกลางเมือง




สำหรับงานศิลปะที่ทางพิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดงนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นงานศิลปะร่วมที่สามารถสัมผัสหรือปีนขึ้นไปได้ ซึ่งทำให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมได้รับความสุขและสนุกกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ในส่วนผลงานของทางพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากๆ มี สระว่ายน้ำที่เราสามารถเข้าไปยืนแล้วเหมือนเรายืนอยู่ในสระว่ายน้ำที่ลึกท่วมหัวจริงๆ ชมผนังที่ถูกแต่งแต้มด้วยดอกไม้ที่เก็บมาจากชานเมืองคานาซาวา มองท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงตามเวลาผ่านห้องที่หลังคาส่วนหนึ่งถูกตัดเป็นช่องเปิด และเพลินกับลวดลายดอกไม้สีสดใสของผ้าไหมคากะยูเซ็นที่วาดลงบนฝาผนังซึ่งเป็นผลงานของศิลปิน ชื่อไมเคิล ลิน ส่วนมุมขายของที่ระลึกมีเครื่องประดับและของใช้น่ารักต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์จำหน่ายหลากหลายชนิ
ด ซึ่งถูกออกแบบตามภาพลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดยเฉพาะ

เวลาเปิดบริการ : 10.00 - 18.00 น. (วันศุกร์และวันเสาร์ ปิดเวลา 20.00 น.)
วันหยุด : ทุกวันจันทร์ (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดราชการ หยุดวันอังคารแทน), วันที่ 29 ธันวาคม  - 3 มกราคม
ค่าเข้าชม : โซนนิทรรศการ (เข้าชมนิทรรศการพิเศษและนิทรรศการถาวร) : ประมาณ 800 เยน (ค่าเข้าชมจะเปลี่ยนแล้วแต่นิทรรศการพิเศษ)
สอบถามรายละเอียดได้ที่ : +81-76-220-2800




7. พิพิธภัณฑ์ศิลปะการแสดงละครโน เมืองคานาซาวา
พิพิธภัณฑ์ศิลปะการแสดงละครโน จัดแสดงศิลปะดั้งของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยศตวรรษที่ 21 เมืองคานาซาวา ละครโน เป็นศิลปะการแสดงดั้งเดิมที่เลื่องชื่อของญี่ปุ่น ซึ่งเมืองคานาซาวาได้สืบทอดศิลปะวัฒนธรรมนี้ต่อมา จนได้เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของละครโน อันดับที่ 3 รองจากโตเกียว และ เกียวโต


พิพิธภัณฑ์ศิลปะการแสดงละครโน จะให้ข้อมูลและความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับละคนโน รวมถึงเวทีการแสดง และยังจัดแสดงหน้ากาก เครื่องแต่งกายและพัดที่มีสีสัน เป็นต้น ที่ใช้ในการแสดงละครโนของสำนักคากะโฮโชแห่งเมืองคานาซาวาจำนวนมาก

ด้านข้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มี "คานาซาวา คราฟท์ ฮิโรซากะ" ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นเมืองของคานาซาวา เช่น ร่มทำจากกระดาษญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์ผ้าปักแบบคากะ และ อื่นๆ

เวลาเปิดบริการ : 10.00 - 18.00 น. (ต้องเข้าก่อน 17.30 น.)
วันหยุด : ทุกวันจันทร์ (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดราชการ หยุดวันอังคารแทน) , วันที่ 29 ธันวาคม ถึงวันที่ 3 มกราคม
ค่าเข้าชม : 300 เยน , ร้านคราฟท์ฮิโรซากะ สามารถเข้าได้ฟรี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : +81-76-220-2790





8. ขนมญี่ปุ่น
 เมืองคานาซาวาถือว่าเป็น 1 ใน 3 ของแหล่งผลิตขนมที่ขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งแต่วัฒนธรรมศิลปชงชาเจริญรุ่งในสมัยเอโดะ ซึ่งที่นี่จะผลิตขนมญี่ปุ่นหลากหลายชนิดเช่นเดียวกับเมืองเกียวโต และ มัตสุเอะ

ขนมญี่ปุ่นมีรูปร่างตามสัญลักษณ์ต่างๆ ของฤดูกาลและสีสันที่สวยงาม ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของขนมญี่ปุ่นอีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากรสชาติดีที่มีเอกลักษณ์สำหรับชาวเมืองคานาซาวา ขนมญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยรับประทานเป็นสิ่งนำโชคในช่วงปีใหม่ ส่งเป็นของขวัญแต่งงานและของขวัญแสดงความยินดี ใช้ในการรับรองแขกและโอกาสสำคัญต่างๆ

ขนมญี่ปุ่นนั้นมีขนมสดที่ทำเพื่อรับประทานในพิธีชงชาของวันนั้น และขนมแห้งที่สามารถเก็บไว้ได้หลายวัน สำหรับใครที่ต้องการหาซื้อขนมญี่ปุ่นลองเดินดูได้จากสถานที่เหล่านี้

ศูนย์ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง จังหวัดอิชิกาวา โทร +81-76-222-5183
เปิดบริการ : 10.00 - 18.00 น.
วันหยุด : ทุกวันอังคารระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม

ศูนย์วัฒนธรรมขนมจังหวัดอิชิกาวา โทร +81-76-221-8366
เปิดบริการ : 09.30 - 17.00 น. (ต้องเข้าก่อน 16.30 น.)
วันหยุด : ทุกวันพุธ








แนะนำเพิ่มเติมอื่นๆ
ไม่ควรพลาดอาหารพื้นถิ่นสไตล์แคว้นคากะ มีผักพื้นเมืองหลายชนิดเรียกว่า Kaga Yasai ปรุงร่วมกับอาหารทะเลของขึ้นชื่อของคานาซาวา รวมถึงซูชิปู

เมืองคานาซาวา เป็นเมืองเล็กๆ การเดินทางไปไหนมาไหน สามารถใช้บริการแท็กซี่ได้ จะสะดวกที่สุด



cr.ภาพจาก http://www.wikipedia.com, http://www.projectbly.com/destinations/kanazawa/food,
freevitathemes.com
cr.ข้อมูลจาก http://www.yokosojapan.org/th/wp-content/uploads/2014/05/Kanazawa-Tourist-Reference-Thai.pdf



ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ


ฮาโกดาเตะ ครองตำแหน่งเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในญี่ปุ่น 2 ปีซ้อน



เมืองฮาโกดาเตะ บนเกาะฮอกไกโด ครองตำแหน่งเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในญี่ปุ่น 2 ปีซ้อน โดยนักท่องเที่ยวประทับใจในบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนที่สวยงาม และอาหารที่เอร็ดอร่อย


     
ผลการสำรวจของสถาบัน BrandResearch Institute ที่ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า เมืองฮาโกดาเตะ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว ทั้งหมดราว 29,046 คน ซึ่งมี ผู้ตอบแบบสอบถาม 73.6% ระบุว่า ฮาเตะดาเตะเป็นเมืองเปี่ยมเสน่ห์ และอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งหนึ่ง โดยฮาโกดาเตะมีบรรยากาศยามค่ำคืนที่สวยงาม และอาหารที่ขึ้นชื่อคือ ปูและปลาหมึก
     
ฮาโกดาเตะ เคยได้รับตำแหน่งเมืองทรงเสน่ห์ที่สุดของญี่ปุ่นครั้งแรกจากการสำรวจเมื่อปี 2009 และกลับมาครองอันดับ 1 อีกครั้งในปีที่แล้ว และปีนี้เป็นครั้งที่ 3








ผลการสำรวจยังพบว่า เกาะฮอกไกโดเป็นพื้นที่มีเมืองติดอันดับเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดจำนวนมากที่สุด โดยเมืองซับโปโร, โอทารุ และฮาโกดาเตะ ได้ผลัดกันครองอันดับเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดต่อเนื่องนานถึง 7 ปี

รัฐบาลท้องถิ่นเมืองฮาโกดาเตะ ระบุว่า ตื่นเต้นอย่างมากที่เมืองห่างไกลบนเกาะฮอกไดโดได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดติดต่อกันหลายครั้ง และทางรัฐบาลจะเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อสอดรับกับการขยายเส้นทางรถไฟด่วนชินคันเซนมายังเกาะฮอกไกโดในปีหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นในปี 2014 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเมืองฮาโกะดาเตะ กว่า 346,000 คน จากก่อนหน้านั้นที่มีเพียง 288,000 คน



    “เมืองทรงเสน่ห์” ของญี่ปุ่น 10 อันดับแรก ได้แก่
       1. ฮาโกดาเตะ
       2. ซับโปโร
       3. เกียวโต
       4. โยโกฮามา
       5. โอทารุ
       6. โกเบ
       7. ฟุราโนะ
       8. คามาคุระ
       9. คานาซาวะ
       10. นากาโน


ที่พักแนะนำในเมืองฮาโกะดาเตะ


cr. ข้อมูลและภาพ
http://www.japantimes.co.jp/news/2015/10/05/national/survey-ranks-hakodate-as-japans-top-tourist-site-for-second-year-in-a-row/#.ViDDPvmqpBc

http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9580000112651

ศิลปะบนนาข้าวของชาวญี่ปุ่น @ หมู่บ้าน Inakadate



นักท่องเที่ยวต่างมุ่งหน้าสู่หมู่บ้าน Inakadate  ใกล้กับเมือง Hirosaki city ของจังหวัด Aomori ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น
เพื่อไปชมศิลปะบนทุ่งนา ที่มีความกว้างกว่า 100 เมตร และ ยาว 140 เมตร
ภาพศิลปะบนนาข้าวนี้จะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกปี ซึ่งกว่าจะมาเป็นภาพศิลปะสวยๆ นั้น เกิดจากการใช้ข้าวกว่า 10 สายพันธุ์ เพื่อให้มีสีสันที่แตกต่างกันไป


ในปีนี้นาข้าวแห่งนี้ได้สร้างศิลปะเป็นธีมของภาพยนต์ชื่อดังในอดีต ชื่อว่า Gone with the Wind โดยที่ทำเป็นรูปของนักแสดงชายมีชื่อว่า Rhett Butler กำลังอุ้ม นักแสดงหญิงชื่อว่า Scarlett O'Hara

ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว มาชมนาข้าวแห่งนี้กว่า 200,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

ศิลปะบนทุ่งนาในหมู่บ้าน Inakadate จะจัดแสดงให้ชมจนถึงเดือนตุลาคม 2558 นี้เท่านั้น

อย่างไรในแต่ละปีจะมีการจัดทำภาพศิลปะขึ้นมาใหม่ๆ 




1993-2001 – The view of Mount Iwaki





2002 – The Mount Iwaki with rice






2003 – Mona Lisa, by Leonardo da Vinci






2004 – two works of Shikō Munakata, a well-known Japanese woodblock printmaker





2005 – Otani Oniji, by Sharaku and Anthology of Poems: The Love Section, by Utamaro






2006 – Fujin and Raijin, by Tawaraya Sōtatsu





2007 – The Great Wave off Kanagawa, and South Wind, Clear Sky, from Thirty-six Views of Mount Fuji, by Hokusai





2008 – Ebisu and Daikoku





2009 – Naoe Kanetsugu, a commander and Napoleon




2010 – A samurai battling a warrior monk






2011 – Left: Kaguya Hime, the Moon Princess, returning to her people at the end of "The Tale of the Bamboo Cutter", Right: the Bamboo Cutter and his wife at the glowing section of bamboo, where the princess arrived to the Earth as a baby





2012 – Goddess of mercy Hibo Kannon with a baby and the angry God of fire and wisdom Fudo Myoo on the big field. On the smaller one there are the Seven Lucky Gods on their ship named Takarabune (Treasure Ship), a head of a dragon and Mazinger Z (also known as Tranzor Z)



2013 – A Geisha, Marilyn Monroe and Ultraman




2014 – A legend about the Heavenly Maiden and the Mount Fuji, on the big field





แผนที่หมู่บ้าน Inakadate ญี่ปุ่น
พิกัด GPS 40.637776, 140.570703



ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ





ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ระงับการให้บริการชั่วคราว สู่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ 1ส.ค. 2558

ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ระงับการให้บริการชั่วคราว สู่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2558 พร้อมดูแลผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งล่วงหน้าเต็มที่ ยืนยันพร้อมกลับมาให้บริการอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์การบินของไทยกลับสู่ภาวะปกติ ด้านโตเกียว โอซาก้า(ญี่ปุ่น) และโซล(เกาหลีใต้) พร้อมให้บริการทุกเที่ยวบินตามปกติ




สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ขอแจ้งระงับการให้บริการเส้นทางบินสู่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2558 เป็นต้นไป เนื่องด้วยปัญหาทางด้านสถานการณ์การบินของประเทศไทยกับทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ยังไม่กลับมาสู่สภาวะปกติ ซึ่งส่งผลต่อแผนการให้บริการผู้โดยสารของสายการบินในเส้นทางนี้

นายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว เราจำเป็นต้องระงับการให้บริการชั่วคราว ในเส้นทางบินใหม่ ซึ่งไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้รับผลกระทบเส้นทางเดียวคือ บินตรงทุกวันกรุงเทพฯ-ซัปโปโร และเราก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะซัปโปโรเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเราก็ขออภัยผู้โดยสารทุกท่านที่สำรองที่นั่งล่วงหน้า และมีกำหนดเดินทางกรุงเทพฯ-ซัปโปโร ตั้งแต่ 31 ก.ค. และซัปโปโร-กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป ท่านสามารถรับข้อเสนอทดแทนต่างๆของเราได้เต็มที่ อย่างไรก็ตามเราสัญญาว่าเมื่อสถานการณ์การบินของไทยกลับสู่ภาวะปกติ เส้นทางซัปโปโรจะกลับมาให้บริการกับทุกท่านอีกครั้งแน่นอน

"สำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ สู่โตเกียวและโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และสู่โซล ประเทศเกาหลีใต้ เรายังยืนยันให้บริการทุกเที่ยวบินตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น เพราะเป็นเส้นทางที่ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้รับอนุญาตการบินประจำก่อนกรณีดังกล่าว ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นได้ โดยเราวางแผนในการจัดโปรโมชั่นบินประหยัดต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นตลาด และหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับประสบการณ์ดีๆ ในเส้นทางที่เราให้บริการ"

อย่างไรก็ตามนายนัตดา กล่าวถึงแผนครึ่งปีหลังของไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ว่า เราจำเป็นต้องชะลอการเปิดเส้นทางบินใหม่สู่ญี่ปุ่น แต่ก็ยังมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยขณะนี้ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ศึกษาเส้นทางบินสู่ประเทศอื่นๆ ไว้ด้วย โดยเป็นเส้นทางที่เครื่องบินแอร์บัส เอ330 สามารถให้บริการได้ ในระยะ 6-9 ชั่วโมง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ในหลากหลายเส้นทาง ทั้งนี้เราก็สนับสนุนและพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ในการให้ภาครัฐแก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์การบินภาพรวมของประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

ปัจจุบันสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ดำเนินการขออนุญาตทำการบินเป็นการชั่วคราวกับทางกรมการบินพลเรือนของประเทศญี่ปุ่น หรือ JCAB ในเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ ท่าอากาศยานดอนเมือง

(DMK) ประเทศไทย สู่ เมืองซัปโปโร ท่าอากาศยานนิวชิโตเซะ(CTS) ประเทศญี่ปุ่น วันละ 1 เที่ยวบิน เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารจากสถานการณ์ดังกล่าวโดยได้รับความร่วมมือผ่านทางสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (มาเลเซีย) ที่เข้ามาให้บริการแทนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2558 เป็นต้นมา

แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติ ทางสายการบินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องระงับการให้บริการในเส้นทางบินกรุงเทพฯ – ซัปโปโร เป็นการชั่วคราวดังกล่าว



ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ


ภูเขาไฟปะทุหนักที่คิวชู ญี่ปุ่นเตือนภัยขั้นสูงสุด

ทางการญี่ปุ่นเตือนภัยขั้นสูงสุด หลังภูเขาไฟ "ชินดาเกะ" บนเกาะคิวชู เกิดการปะทุอย่างรุนแรง

„สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ( เจเอ็มเอ ) ออกประกาศเตือนภัยระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หลังภูเขาไฟชินดาเกะ ตั้งอยู่บนเกาะคูชิโนะเอราบูจิมะ หนึ่งในเกาะย่อยของหมู่เกาะคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เกิดการปะทุอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ก่อให้เกิดกลุ่มควันและเถ้าถ่านลอยขึ้นปกคลุมท้องฟ้าโดยรอบ 


ซึ่งเจเอ็มเอประเมินว่า อาจลอยไปไกลถึงน่านฟ้าทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ขณะที่บริษัทไฟฟ้าคิวชู ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เซนได ยืนยันการปะทุอย่างุรนแรงของภูเขาไฟไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเตาปฏิกรณ์ เนื่องจากโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ห่างออกไปถึง 160 กิโลเมตร 




ด้านนายโยชิฮิเดะ ซึกะ โฆษกคณะรัฐมนตรี แถลงยืนยันแรงปะทุของภูเขาไฟยังไม่สร้างอันตรายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีอยู่ราว 140 คนเท่านั้น และต่างได้รับคำสั่งให้อพยพไปยังศูนย์พักพิงของทางการแล้ว อย่างไรก็ตาม เกาะคูชิโนะเอราบูจิมะตั้งอยู่ห่างเพียง 12 กิโลเมตร จากเกาะยาคุชิมะ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 13,000 คน ทั้งนี้ ภูเขาไฟชินดาเกะเคยปะทุอย่างรุนแรงมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปะทุครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2523 และย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว ภูเขาไฟ "ออนตาเกะ" ตั้งอยู่ทางตอนกลางของญี่ปุ่น เกิดการปะทุอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 57 ศพ“







cr.dailynews


ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ


เปลี่ยนสนามบินเป็นลู่วิ่งรับโอลิมปิค


กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น จะเป็นสถานที่จัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิคปี 2020 ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เทอร์มินัล 3 ของสนามบินนานาชาตินาริตะ ถูกจับแปลงโฉมเป็นลู่วิ่ง ที่ไม่เพียงเข้ากระแส แต่ยังทำให้การเดินทางในสนามบินง่ายต่อผู้โดยสาร และเป็นระเบียบมากขึ้นด้วย



บริษัทครีเอทีฟญี่ปุ่น "ปาร์ตี้" เป็นผู้คิดค้นวิธีตกแต่งภายในใหม่ ที่ใช้งบประมาณน้อย แต่มีประสิทธิภาพ ด้วยการวางลู่วิ่งสีแดงสำหรับผู้โดยสารขาออก และสีน้ำเงินสำหรับขาเข้า ทั้งยังพิมพ์สัญลักษณ์ และลูกศรขนาดใหญ่บนผนังไปยังสายพานกระเป๋า รถไฟเข้าเมือง หรือสถานที่สำคัญในนามบิน ที่ดูง่าย



ลูวิ่งสีน้ำเงินเป็นลู่สำหรับผู้โดยสารขาออก (Departing Area)


ลู่วิ่งสีแดงเป็นลู่สำหรับผู้โดยสารขาเข้า (Arrivals)




สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกนำมาจัดวางใหม่ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการสนับสนุน จาก Muji ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังของประเทศญี่ปุ่น


ใครได้มีโอกาสใช้บริการสนามบินนาริตะ ก็อย่าลืมเก็บภาพมาอวดกันบ้างนะครับ


cr. http://www.mymodernmet.com/profiles/blogs/2020-olympic-track-narita-airport-terminal



ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ



สถานทูตไทยในโตเกียวเตือนห้ามเข้าโอวาคุดานิ–คามิยามะหลังแผ่นดินไหวที่ฮาโกเนะ

สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ออกประกาศเตือน  จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ภูเขาไฟฮาโกเนะ บริเวณโอวาคุดานิ และคามิยามะ ทางตอนกลางของ จังหวัดคานากาวะ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558



กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ประกาศยกระดับระวังภัยภูเขาไฟระเบิดจากเดิมระดับ 1 (สถานการณ์ปกติ) ขึ้นเป็นระดับ 2 (จำกัดห้ามเข้าบริเวณพื้นที่เสี่ยง) บริเวณโอวาคุดานิ จึงขอให้บุคคลที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวติดตามข่าวสารจากทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด


อวาคุดานิ (Owakudani)  เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อประมาณ 3000 ที่แล้ว จึงมี "แร่กำมะถัน" ที่เชื่อว่าช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและรักษาโรคภัยต่างๆ ได้  ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ออนเซน" และของขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งก็คือ "ไข่ดำ" (Kuro-Tamago) ซึ่งเป็นไข่ต้มสุกในบ่อของหุบเขาโอวาคุดานิ  ที่เชื่อว่ากินไข่ดำหนึ่งฟอง จะอายุยืนขึ้นไปอีก 7 ปี


cr.ภาพ สถานฑูตไทยในโตเกียว
cr.ข้อมูล จส100



ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ


การรถไฟญี่ปุ่น นำรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็ว 600 กม./ชม.ออกวิ่งทดสอบ

วันที่ 21 เมษายน 2558 การรถไฟญี่ปุ่น นำรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าออกวิ่งทดสอบใกล้ภูเขาไฟฟูจิ หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีการทดสอบกับระบบรางมาแล้ว เมื่อปี ค.ศ. 2010 โดยครั้งนี้เป็นการทดสอบความเร็ว ซึ่งทำลายสถิติโลก โดยรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้านี้ สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 580 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตามมีการระบุว่าความเร็วจริงที่กำหนดไว้มากกว่า 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 373 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งนี้ภายในห้องโดยสารมีการติดจอมอนิเตอร์แสดงให้เห็นความเร็วของรถไฟ



โดยกำหนดการ ในการเปิดบริการเส้นทางระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองนาโกยาทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ภายในปี 2570 ซึ่งมีระยะทาง 280 กิโลเมตร ทั้งนี้มีการคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางเพียง 40 นาที ซึ่งเมื่อเทียบรถไฟฟ้าที่ใช้ให้บริการประชาชนในปัจจุบัน ใช้ระยะเวลา 90 นาที ในระยะทางเท่ากัน ซึ่งนับได้ว่า ประหยัดเวลามากกว่าเดิม มากกว่าสองเท่า

รถไฟแม็กเลฟ มีคุณสมบัติ ที่ใช้แม่เหล็กเป็นตัวขับเคลื่อนขบวนรถ ในการนำมาใช้โดยสารจริง รถไฟจะใช้ความเร็วสูงสุดที่ 505 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อย่างไรก็ตามรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการวางแผน ว่าจะขายสัมปทานเทคโนโลยีรถไฟฟ้าแม็กเลฟ ให้กับประเทศอื่น ๆ ที่สนใจทางด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีกำหนดจะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ คาดว่าเขาจะหารือเรื่องการนำรถไฟแม็กเลฟสำหรับวิ่งบริการระหว่างนครนิวยอร์กและกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงกรุงวอชิงตันดีซีและบัลติมอร์เข้าหากันในเวลาเพียง 15 นาที



คลิปโดย Childrenlovetrains




Photo : AFP
เนื้อหา ประชาชาติธุรกิจ



ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ