ท่องเที่ยวในทะเลสาบโทยะ

ทะเลสาบโทยะ มีใครเคยได้ยินมาบ้างหรือเปล่า หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่บางคนอาจจะร้อง อ่อ! ก็ที่แห่งนี้เคยเป็นที่จัดการประชุม G8 การประชุมของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ไงล่ะ หลายคนคงอยากรู้แล้วใช้มั้ยว่า ทะเลสาปโทยะ ที่อยู่บนเกาะฮอกไกโดมีความน่าสนใจตรงไหน งั้นไปทำความรู้จักกันเลย





ทะเลสาบโทยะ  (Lake Toya) 


ทะเลสาบโทยะ  (Lake Toya) 

ทะเลสาบโทยะ  (Lake Toya) หรือ โทยะโกะ (Toyako) ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางของฮาโกดาเตะและซัปโปโร ภายในเขตอุทยานแห่งชาติค็อทสึ-โทยะ (Shikotsu Toya National Park) บริเวณเป็นพื้นที่ที่เป็นทะเลสาบที่อยู่บนภูเขา ซึ่งเกิดจากการระเบิดตัวของภูเขาไฟเมื่อหลายแสนปีมาแล้ว ซึ่งทะเลสาบที่เกิดจากระเบิดครั้งนั้นได้แก่ ทะเลสาบชิค็อทสึ (Lake Shikotsu) ทะเลสาบคัททะระ (Lake Kattara) ทะเลสาบฮังเง็ตสึ (Lake Hangetsu) และทะเลสาบโทยะ ในบรรดาทะเลสาบที่เกิดขึ้นนั้น ทะเลสาบโทยะ ถือว่าเป็นทะเลสาบที่มีธรรมชาติที่สวยงามมากกว่าแห่งอื่นด้วยมีภูเขาไฟอยู่กลางทะเลสาบ รอบบริเวณทะเลสาบโทยะมีแหล่งอาบน้ำแร่ชั้นดีให้ได้แช่กันอีกด้วย จึงมีโรงแรมและรีสอร์ต์ กระจายโดยทั่ว ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว





Toyako Visitor Center & พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ (Volcano Science Museum)


Toyako Visitor Center & พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ (Volcano Science Museum)

Toyako Visitor Center & พิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟ (Volcano Science Museum) เป็นที่แรกที่ควรไปเยี่ยมชม เพื่อที่จะได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่บริเวณทะเลสาบโทยะ ทุกอยากที่เกี่ยวของพื้นที่รอบทะเลสาบ โดยเฉพาะเรื่องราวของภูเขาไฟอุสุ (Usazan) ส่วนพิพิธภัณฑ์ภูเขาไฟนั้นก็จัดแสดงอยู่ภายในอาคารเดียวกัน ซึ่งจะแสดงภาพเหตุการณ์ความเสียหาย จากการปะทะของภูเขาไฟอุสุครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2543





ภูเขาไฟอุสุและภูเขาไฟน้องใหม่โชวะชินซัง


ภูเขาไฟอุสุ (Mt. Usu)

1. ภูเขาไฟอุสุ (Mt. Usu) เป็นภูเขาไฟที่ระเบิดบ่อยที่สุดในญี่ปุ่น สามารถเดินขึ้นไปชมวิวและชมปากปล่อยของภูเขาไฟได้ง่ายๆ ด้วยมีบริการกระเช้าไฟฟ้า ที่ใช้เวลาเพียง 6 นาทีก็ถึงยอดเขา บนนั้นมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาโชวะชินซัง และวิวของทะเลสาบโทยะได้โดยทั่ว หากจะเดินจะเดินไปชมปล่องภูเขาไฟอุสุที่ยังมีควันลอยอยู่ก็เดินขึ้นไปอีก 5-10 นาทีเท่านั้น

เขาโชวะชินซัง (Mt. Showa shinzan)

2. เขาโชวะชินซัง (Mt. Showa shinzan) ดันตัวขึ้นตรงบริเวณเชิงเขาอุสุ ก่อนการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2486 โดยมีนายไปรษณีย์ชื่อมิมัตสึสังเกตุการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ และได้จัดบันทึกเรื่องราวและถ่ายภาพของพัฒนาการของภูเขาโชวะไว้ได้ หากขึ้นไปบริเวณจุดชมวิวบนยอดเขาอุสุจะเห็นเป็นเนินดินสีแดงโดดเด่นอีกทั้งยังมีควันลอยออกมาอยู่ตลอด





สถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ บริเวณสถานีกระเช้า Usuzan Ropeway


พิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมืองไอนุ (Ainu Museum)

บริเวณสถานีกระเช้าไฟฟ้า Usuzan Ropeway ที่เป็นจุดบริการพานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังภูเขาไฟอุสุนั้นยังมีสถานที่ให้ได้แวะไปชมอีกหลายแห่ง ได้แก่

1. พิพิธภัณฑ์ชนพื้นเมืองไอนุ (Ainu Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิต และเรื่องราวของชาวไอนุชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมบนเกาะฮอกไกโดและมีการแสดงเต้นรำต่างๆ ให้ได้ชมด้วย เปิด 08.00-17.00 น.

2. พิพิธภัณฑ์แก้วโชวะชินซัง (Showa shinzan Glass Museum) จัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วให้ได้ชมและเลือกซื้อมากมาย

3. หอที่ระลึกมาซาโอะ มิมัตสึ (Masao Mimatsu Memorial Hall) จัดแสดงภาพถ่ายการเปลี่ยนแปลงการงอกของเขาโชวะชินซัง โดยการจัดบันทึกของนายไปรษณีย์มิมัตสึ ที่เป็นผู้สังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งแสดงเครื่องมือต่างๆ ของเขา

4. สวนหมีโชวะชินซัง (Showa Shinzan Bear Park) มีหมีสีน้ำตาลที่พบได้บนเกาะฮอกไกโดมากกว่า 100 ตัวให้ได้ชม ซึ่งชนเผ่าไอนุถือว่าเป็นสัตว์เทพเจ้าของพวกเขา





ปากปล่องภูเขาไฟนิชิยาม่า (Nishiyama Crater)


ปากปล่องภูเขาไฟนิชิยาม่า (Nishiyama Crater)

ปากปล่องภูเขาไฟนิชิยาม่า (Nishiyama Crater) เกิดขึ้นกลางถนนที่จะตัดเขาสู่ทะเลสาบโทยะ เมื่อครั้งปะทุปี พ.ศ.2543 ทำให้แผ่นดินยกตัวขึ้นสูงแล้วพ่นเถ้าถ่านออกมา ถนนทั้งสายคดเคี้ยวบิดเบี้ยวไปมา บางแห่งก็ดันตัวขึ้น บางแห่งก็ยุบตัวลง บ้านเรือนพังเสียหาย ไม่เว้นแม้แต่ทางรถไฟเจอาร์ที่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร จากป้ายรถบัส Nishiyama มีทางเดินขึ้นเดินขึ้นไปชมปากปล่อยที่ยังคงมีควันลอยออกมาตลอด ตลอดทางจะได้พบเห็นบ้านเรือนที่พังเสียหายจากการปะทุครั้งนั้นด้วย





ขอบคุณภาพประกอบจาก
panoramio.com ,japan-guide.com ,flickr.com ,alljapantours.com
travel-around-japan.com

สถานที่ท่องเที่ยวในโอตารุ

โอตารุ เมืองเล็กๆ แต่เสน่ห์ไม่เล็กที่อยู่บนเกาะฮอกไกโด ด้วยเมืองขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองโรแมนติกมาก ที่ใครๆ ก็อยากไป แค่เพียงมีเวลาเหลือนิดหน่อยก็สามารถเดินเที่ยวเล่นไปทั่วเมืองแล้ว แต่ที่ทำสำคัญที่ไม่ควรพลาดก็คงเป็นจุดขายของเมืองนี้ที่ว่ามาแล้วจะต้องไปเยือนให้ได้ เพราะคุณจะได้พบกับบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกที่เขาล่ำลือกัน แต่จะเป็นที่ไหนนั้น เราไปทำความรู้จักกับเมืองโอตารุกันก่อนเลย





โอตารุ


โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโรห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถใช้เวลาหนึ่งวันเดินเทียวเล่นได้อย่างสบายๆ ในอดีตเมืองโอตารุเป็นเมืองท่าที่สำคัญเทียบเท่ากับเมืองฮาโกดาเตะ แต่จากการพัฒนาที่ช้ามากทำให้ความเจริญไปอยู่ที่ซัปโปโรเป็นส่วนใหญ่ มีเวลาเหลือเพียงน้อยนิดก็สามารถเดินเที่ยวโอตารุได้แล้ว


แผนที่โอตารุ





คลองโอตารุ (Otaru Canal)


คลองโอตารุ (Otaru Canal)

คลองโอตารุ (Otaru Canal)  หรือ โอตารุอุนงะ (Otaru Unga) คลองนี้ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร เมื่อก่อนน้ำในลำคลองสกปรกมาก เพราะอยู่ใกล้กับท่าเรือ ต่อได้มีการพัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว น้ำจึงใสแจ๋วแบบในปัจจุบัน จนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ เมื่อก่อนคลองโอตารุเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าทำให้มีโกดังเก่าตั้งเรียงรายอยู่ริมลำคลอง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นร้านอาหาร ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แสงจากดวงอาทิตย์จะสาดแสงลงมาทำให้บรรยายกาศของคลองโอตารุดูสวยงามมากยิ่งขึ้น





ถนนซาไกมาจิ (Sakai-Machi)


ถนนซาไกมาจิ (Sakai-Machi)

ถนนซาไกมาจิ (Sakai-Machi) เป็นถนนที่รวบรวมบรรดาร้านขายของที่ระลึกของฝาก ร้านค้าต่างๆ จะเป็นอาคารเก่าโบราณทั้งสองข้างทาง และของฝากที่ขึ้นชื่อของถนนเส้นก็คือ บรรดาเครื่องแก้วและกล่องดนตรี โดยเฉพาะเครื่องแก้วนั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ไปจนถึง แก้วน้ำ แจกัน ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนี้แล้วก็ยังมีแก้วคริสตัลสวยงามที่ส่องประกายยั่วใจให้ได้เสียสตางค์ซื้อกันด้วย





พิพิธภัณฑ์และร้านขนมกล่องดนตรี (Otaru Orgel Emporium)


พิพิธภัณฑ์และร้านขนมกล่องดนตรี (Otaru Orgel Emporium)

พิพิธภัณฑ์และร้านขนมกล่องดนตรี (Otaru Orgel Emporium) ตั้งอยู่ภายในตึดอิฐแดงเก่าสองชั้น ภายในเปิดขายบรรดากล่องดนตรีสำเร็จรูปที่สวยงาม จุดเด่นของที่นี้อยู่เราสามารถประดิษฐ์กล่องดนตรีได้เองตามใจชอบ แต่แต่การเลือกกล่องดนตรี ตุ๊กตาประดับ และเพลงที่จะใส่ลงไปในกล่องดนตรีของเรา โดยราคาก็จะแตกต่างกันออกไปและมีหลายราคาให้เลือกซื้อเป็นของฝากได้ตามใจชอบ แต่อีกอย่างที่น่าสนใจของร้านนี้คือ ที่ด้านหน้าของร้านจะมีนาฬิกาไอน้ำโบราณ ที่มีเพียงแค่สองเรือนในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ให้ผู้คนได้ไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยจะส่งเสียงเพลง และพ่นไอน้ำออกมาเพื่อบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมงครับ





ถนนสายซูชิ (Sushiya Street)


ถนนสายซูชิ (Sushiya Street)

ถนนสายซูชิ (Sushiya Street) เป็นแหล่งรวมบรรดาร้านซูชิเอาบนถนนสายนี้ โอตารุเองก็เป็นอีกแห่งที่เขาล่ำลือถึงเรื่องซูชิที่ว่ากันว่าทั้งสด หวาน อร่อยที่สุดของญี่ปุ่น ที่หน้าร้านซูชิจะมีโมเดลของให้ได้เลือกพร้อมราคาบอกไว้เรียบร้อย บรรยายกาศแต่ละร้านจะดูไปแบบญี่ปุ่นโบราณเพิ่มอัตรสในการทานไปด้วย



10 โรงแรมแนะนำในโอตารุ ญี่ปุ่น



ขอบคุณภาพประกอบจาก
kirarista.com ,dmagicube.blogspot.com ,flickr.com ,praew.com ,Map of Japan

สถานที่ท่องเที่ยวในฮาโกดาเตะ

ฮาโกดาเตะ ชื่อนี้ หลายท่านอาจจะไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไหร่ 
แต่ถ้าคนที่ไปเที่ยวฮอกไกโดบ่อยๆ คงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง 
เพราะเมืองนี้ เป็นเมืองท่า ซึ่งตัั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด
เรามาทำความรู้จักกับฮาโกดาเตะกันก่อนเสียหน่อยดีกว่า


ฮาโกดาเตะ

ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 บนเกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ริมเชิงเขาฮาโกดาเตะ ขนาบด้วยทะเลทั้ง 2 ด้าน เมื่อมองลงมาจากยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate) จะได้เห็นเมืองที่สวยงาม จนคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวยกให้เป็น 1 ใน 3 วิวยามค่ำคืนที่สวยสุดยอดในโลก (ร่วมกับวิวบริเวณอ่าววิคตอเรียฮ่องกงและเนเปิลในอิตาลี)
ในปี พ.ศ. 2402 ท่าเรือฮาโกดาเตะได้เปิดเป็นท่าเรือพาณิชย์นานาชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นพร้อมๆ กับโยโกฮามา และ นางาซากิ ซึ่งถือว่าเป็น 1 ใน 5 เมืองท่าสำหรับค้าขายกับชาวต่างชาติ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมทางตะวันตก รวมถึงโบสถ์คริสต์และร้านอาหารที่มีหลากหลายเชื้อชาติ สถานที่ท่องเที่ยวในฮาโกดาเตะที่น่าสนใจก็มีหลายที่


แผนที่ฮาโกดาเตะ





ป้อมรูปดาวโกเรียวคะคุ (Goryokaku)


ป้อมรูปดาวโกเรียวคะคุ (Goryokaku)
ป้อมรูปดาวโกเรียวคะคุ (Goryokaku) ห่างจากฮาโกดาเตะ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที ป้อมดาว 5 แฉก ถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนตระโทกุงาวะ เมื่อ ปี พ.ศ. 2400 เพื่อใช้ป้องกันการรุกรานจากต่างชาติในช่วงที่สหรัฐต้องการบีบให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ปัจจุบันป้อมแห่งนี้ได้กลายเป็นสวนสาธารณะโกเรียวคะคุ และยังคงรักษารูปทรงของป้อมไว้เป็นอย่างดี ในฤดูใบไม้ผลิดอก ซากุระ 1600 ต้นจะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงเจิดจ้า และเมือฤดูหนาวหิมะจะตกปกคลุมจนทำให้เห็นรูปเหลี่ยมได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากต้องการชมความงามของป้อมรูปดาวโกเรียวคะคุจากมุมสูง เราต้องขึ้นไปบนหอคอยโกเรียวคะคุ

สำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ (บุเกียวโช)
หากคุณเดินเท้าเข้าไปเที่ยวในสวนสาธารณะแห่งนี้ อย่าลืมเข้าไปเที่ยวใน สำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ (บุเกียวโช) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะ อาคารแห่งนี้ได้รับการฟื้นฟูสภาพใหม่ หลังจากที่เคยถูกใช้เป็นสำนักงานของรัฐบาลที่บริหารโดยซามูไร นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรมได้ภายจากนอก หรือ หากต้องการเข้าไปชมงานหัตศิลป์ด้านในก็สามารถซื้อตั๋วเข้าไปชมได้เช่นกัน 
เปิดให้บริการ
เมษายน - ตุลาคม 9.00 - 18.00
พฤศจิกายน - มีนาคม 9.00 - 17.00
ค่าผ่านประตู 500 เยน สำหรับผู้ใหญ่







หอคอยโกเรียวคะคุ (Goryokaku Tower)


หอคอยโกเรียวคะคุ (Goryokaku Tower)


หอคอยโกเรียวคะคุ (Goryokaku Tower) เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นมาใหม่ เปิดใช้เมื่อปี พ.ศ.2549 ด้วยความสูง 107 เมตร แทนที่ของเก่าที่สูงเพียง 60 เมตร จุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูง 90 เมตร หอคอยเป็นรูปทรง 5 เหลี่ยม ภายในมีกล้องส่องทางไกล เมื่อมองลงมาที่ด้านล่างจะมองเห็นสวนสาธารณะโกเรียวคะคุ อีกทั้งมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารและร้านกาแฟไว้ให้คอยบริการ
เปิดให้บริการ
21 เมษายน - 20 ตุลาคม 8.00 - 19.00
21 ตุลาคม - 20 เมษายน 9.00 - 18.00
ค่าผ่านประตู 840 เยน 




อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่า (Hakodate Meijikan)


อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่า (Hakodate Meijikan)

อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่า (Hakodate Meijikan) เป็นอาคารอิฐสีแดงที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2454 ภายนอกอาคารถูกปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์เลื่อยขึ้นเต็มผนัง ซึงเป็นความตั้งใจของที่นี่ ซึ่งมันก็ทำให้ดูสวยงามไปอีกแบบ และก็ทำให้อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่าแห่งนี้มักมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปถ่ายรูปตลอดเวลา เดิมเป็นที่ทำการไปรษณีย์ แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร ด้านหน้ายังมีตู้ไปรษณีย์ตั้งเรียงรายให้ได้ชมอีกทั้งยังสามารถส่งจดหมายหรือไปรษณียบัตรได้อยู่





โกดังอิฐแดงเก่า (Red Brick Warehouses)


โกดังอิฐแดงเก่า (Red Brick Warehouses)

โกดังอิฐแดงเก่า (Red Brick Warehouses) เป็นมุมที่ใครต่อใครก็ต้องไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เป็นอาคารอิฐแดงที่ตั้งอยู่ริมถนนที่ทอดยาวเรียบอ่าวติดทะเล บริเวณนี้มีอาคารอิฐแดงตั้งอยู่ประมาณ 5-6 หลัง เป็นอาคารใหม่ที่สร้างขึ้นมาแทนที่โกดังสินค้าเก่าที่ถูกไฟไหม้ไป ภายในอาคารเป็นร้านค้า ที่มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ของเล่น กิ๊ฟช้อป และร้านอาหาร สถานที่นี่กลายเป็นสถานที่สุดโรแมนติกอีกแห่งของฮาโกดาเตะ





ท่าเรือเก่า (Old Pier)


ท่าเรือเก่า (Old Pier)

ท่าเรือเก่า (Old Pier) ชื่อจริงของท่าเรือนี้คือ ฮิกาชิฮามะ (Higashihama Pier) เป็นท่าเทียบเรือสำหรับเรือที่เดินทางมาจากอาโอโมริ ซึงท่าเรือนี้เดินออกมาจากอาคารอิฐแดงโกดังเก่าไม่ไกลมา ซึ่งท่าเรือนี้เคยมีเรือเฟอร์รี่ของบริษัทมิตซูบิชิและเรือเฟอร์รี่ของการรถไฟญี่ปุ่น (JR) ให้บริการที่ท่าเรือนี้เท่านั้น แต่หลังจากที่ท่าเทียบเรือแห่งใหม่ทางตอนเหนือของฮาโกดาเตะสร้างเสร็จแล้วที่นี่จึงกลายเป็นอดีต มีเพียงอนุสาวรีย์และรูปหมีเพื่อรำลึกถึงการมาถึงฮอกไกโดครบรอบ 100 ปี เพราะจุดนี้ถือว่าเป็นจุดแรกที่เรือโคเมะมารุ (Komeimaru) นำนักสำรวจชาวญี่ปุ่นข้ามมากจากอาโอโมริบนเกาะฮอนชูขึ้นฝั่นฮอกไกโดครั้งแรก





ย่านโมโตมาชิ (Motomachi)


ย่านโมโตมาชิ (Motomachi)

ย่านโมโตมาชิ (Motomachi) คือบริเวณเชิงเขาฮาโกดาเตะ ตั้งแต่สถานีรถราง Jujigai ถึง Suehiro-Cho ณ บริเวณนี้เป็นเนินลาดเอียงขึ้นไปตามเชิงเขา เมื่อมองลงมาจากถนนที่ตัดขึ้นสู่ด้านบน จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของท่าเรือ ในอดีตแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าขายกับญี่ปุ่น จึงเกิดชมชุนต่างชาติขึ้นมา สิ่งก่อสร้างบริเวณนี้จึงมีทั้งโบสถ์ วัด สถานกงสุลเก่ารวมทั้งอาคารร้านค้าบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป จึงทำให้ย่านมักมีคู่รักมาเดินเล่นจูงมือกันตลอด





ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate Ward)


ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate Ward)

ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate Ward) หลังนี้ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเชิงเขาภายในสวนโมโตมาชิ (Motomashi Park) ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ตามสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลและอังกฤษคลาสสิค ใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ด้วยความสวยงามภายที่วิจิตรสวยงามทั้งภายในและภายนอกศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะหลังนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญของชาติ





อาคารเก่าที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโด (Old Brance Office of Hokkaido Government)


อาคารเก่าที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโด 
(Old Brance Office of Hokkaido Government)

อาคารเก่าที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นฮอกไกโด (Old Brance Office of Hokkaido Government) เป็นอาคารแบบตะวันตกตั้งอยู่ภายในสวนโมโตมาชิ สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2452 ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เมืองฮาโกดาเตะ (City Museum of Hakodate) จัดแสดงภาพถ่ายประวัติศาสตร์การก่อสร้างตั้งเมือง





โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Russian Orthodox Church)


โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Russian Orthodox Church)

โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Russian Orthodox Church) เป็นโบสถ์สไตน์แบแซนไตน์ โดดเด่นที่หอระฆังทรง 8 เหลี่ยม หลังที่เห็นเป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1916 แทนของเดิมที่ถูกไฟไหม้ ถ้าจะเข้าไปชมด้านในต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 200 เยน เข้าชมได้ตั้งแต่ 10.00-17.00 น.




โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาชิ (Motomachi Roman Catholic Church)


โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาชิ (Motomachi Roman Catholic Church)

โบสถ์โรมันคาทอลิกโมโตมาชิ (Motomachi Roman Catholic Church) อยู่ไม่ไกลจาก Russian Orthodox Church เท่าไหร่ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมแบบโกธิคสีขาวนวลยอดโบสถ์สีฟ้า เข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่ 10.00-16.00 น. ที่ด้านในมีแท่นบูชาในห้องสวดมนต์ที่สมเด็จพระสันตะปาปา มอบให้เป็นของขวัญให้ได้ชม





เขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate)


เขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate)

เขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate) เป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ด้วยวิวทัศน์ในยามค่ำคืนที่ติด 1 ใน 3 วิวยามค่ำคืนที่สวยสุดยอดในโลก (ร่วมกับวิวบริเวณอ่าววิคตอเรียฮ่องกงและเนเปิลในอิตาลี) การเดินทางขึ้นเขาก็สะดวกสบายด้วยมีกระเช้าไฟฟ้าที่สามารถพาคุณเดินทางไปถึงยอดเขาได้ในเวลาเพียง 3 นาที ในระดับความสูง 334 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อมองลงมาจะพบวิวอันสวยงามของตัวเมืองฮาโกดาเตะ ที่มีน้ำทะเลขนาบอยู่ทั้งสองด้าน เมื่อเวลาพบค่ำบ้านเรือนและถนนหนทางจะเปิดไฟ จึงทำให้เห็นแสงระยิบระยับไปไกล ช่วงเวลาใกล้ค่ำนักท่องเที่ยวจะพากันขึ้นมาจับจองพื้นที่เพื่อชมความงามของวิวเมืองฮาโกดาเตะ ใครที่จะไปก็กะเวลาสักนิดเพื่อให้ได้พื้นที่ในการชื่นชมความงาม บนจุดชมวิวแต่ระชั้นก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกใด้เขาไปใชบริการด้วย





ตลาดเช้าอะซา-อิชิ (Asa-ichi Morning Market)


ตลาดเช้าอะซา-อิชิ (Asa-ichi Morning Market)

ตลาดเช้าอะซา-อิชิ (Asa-ichi Morning Market) ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีฮาโกดาเตะ เป็นตลาดสดที่แบ่งส่วนออกเป็นโซนขายผักขายผลไม้ ถึงชื่อจะบอกว่าเป็นตลาดสดแต่ร้านค้าก็อยู่ในตัวอาคารอย่างดี ของดีของตลาดนี้คืออาหารทะเล โดยเฉพาะปูยักษ์ฮอกไกโดที่ได้ชื่อว่าเนื้อนุ่มหวานอร่อย วางขายอยู่เต็มไปหมด นอกจากนี้ใครอยากลองหมึกสดให้เดินไปที่บ่อตกหมึกกลางตลาด เมื่อตกได้แล้วพ่อค้าจะแล่ให้รับประทานกันสดๆ เลย หรือจะลองมองหาร้านที่มีเมนูข้าวหน้าปลาดิบ ซึ่งเป็นซูชิชนิดหนึ่ง เรียกว่า จิราชิ-ซูชิ (Chirashi-Zushi) มีหลายหน้าให้เลือก อาทิ ปลา กุ้ง หมึก ไข่ปลาแซลม่อน หอยเชลล์ เนื้อปู เหล่านี้วางโปะมาบนข้าวสวย


ที่พักแนะนำในฮาโกดาเตะ ญี่ปุ่น


ขอบคุณภาพประกอบจาก
Blog It Together ,kimi-tourguide ,hakodate-fc.com ,jirobkk ,feastntravel.com
miyatake-k.blogspot.com ,commons.wikimedia.org ,mikesblender.com
dplusguide.com ,chill.co.th ,Map of Japan

สถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโร

ซัปโปโร!  ซัปโปโป!  ซัปโปโรคืออะไร เมื่อจะไปยังเกาะฮอกไกโดแล้วหลายคนคงเคยได้ยินผ่านๆ กันมาบ้าง งั้นลองมาทำความรู้จักกับ ซัปโปโรกันคราวๆ ก่อนไปเที่ยวกันดีกว่า งั้นเริ่มที่





ซัปโปโร

ซัปโปโร (Sapporo) นั้นเป็นเมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด โดยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดบนเกาะฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง ศึกษา การค้า กีฬาและความบันเทิง มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกชมมากมาย ผังเมืองของซัปโปโรมีการวางแบบแปลนเป็นลักษณะตารางสี่เหลี่ยมมีถนนหนทางและทางเท้าที่กว้าง จึงดูเป็นระเบียบ โดยมีสวนโอโดริ ยาว 1.5 กิโลเมตร พาดผ่านกลางเมือง แบ่งตัวเมืองออกเป็นซีกด้านเหนือและด้านใต้ เมื่อรู้จักซัปโปโรกันโดยคร่าวๆ แล้ว เราก็ไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ กันเลย



แผนที่ซัปโปโร



อุณหภูมิในซัปโปโร




แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในซัปโปโร


ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building)


ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building)


ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building) หรือ อะคะเร็งงะ (Akarenga) ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า อิฐสีแดง สร้างในปี พ.ศ.2416 เป็นอาคารในสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา โดยลอกเรียนแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ตึกแดงนี้ใช้ทำการตั้งแต่ปี พ.ศ.2429 และใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 80 ปี ก่อนจะย้ายไปที่ทำการหลังใหม่ที่ทันสมัยกว่าด้านหลังของตึกแดง ตัวอาคารในปัจจุบันยังคงงดงาม ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่ง อาคารหลังนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติเมื่อปี พ.ศ.2512 ภายในยังคงมีข้าวของเครื่องใช้ในห้องที่เคยเป็นที่ทำงานของผู้ว่าการเมือง บางห้องจัดเป็นนิทรรศการแสดงภาพถ่ายและเรื่องราวความเป็นมาของเมือง ให้ชมกันแบบฟรีๆ





หอนาฬิกา (Clock Tower)


หอนาฬิกา (Clock Tower)


หอนาฬิกา (Clock Tower) เก่าที่ตั้งเด่นท่ามกลางกลุ่มตึกสูงสมัยใหม่ หอนาฬิกานี่เก่าแก่มากจนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2424 ตีบอกเวลามาจนถึงปัจจุบันและบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรง เป็นอีกสถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาติ ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ทาสีขาว เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตลอดเวลา ส่วนภายในจัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของหอนาฬิกาแห่งนี้





สวนโอโดริ (Odori Park)


สวนโอโดริ (Odori Park)

สวนโอโดริ (Odori Park) เป็นสาธารณะที่พาดผ่านกลางเมืองซัปโปโรและแบ่งเมืองออกเป็นซีกด้านเหนือและด้านใต้ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร มีถนนตัดผ่านเป็นช่วง ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับปลูกไว้งดงาม รวมทั้งน้ำพุ และงานประติมากรรมกลางแจ้งตั้งไว้ให้ชมสลับกับม้านั่งที่มีให้เลือกนั่งพักผ่อน





หอคอยทีวี ทาวเวอร์ (TV Tower)


หอคอยทีวี ทาวเวอร์ (TV Tower)

หอคอยทีวี ทาวเวอร์ (TV Tower) อยู่ปลายสุดด้านตะวันออกของสวนโอโดริ เป็นหอคอยส่งกระจายสัญญาณโทรทัศน์ สูง 147.2 เมตร มีจุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูง 90 เมตร จึงมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะมุมมองไปตามความยาวของสวนโอโดริทางด้านตะวันตกทอดออกสู่ตัวเมืองรอบนอกโดยมีแนวขุนเขาตั้งสลับกันอยู่หลายลูก





ทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Arcade)


ทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Arcade)

ทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Arcade) เป็นช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ ที่แห่งนี้กินความยาวถึง 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้าน ตั้งขวางอยู่ในแนวตะวันออก - ตะวันตกอยู่ระหว่างสถานี Subway Odori และ Susukino ภายในขายเสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึก ของเล่น เครื่องสำอาง รวมไปถึงร้านอาหาร





ย่านบันเทิงซูซูกิโนะ (Susukino)


ย่านบันเทิงซูซูกิโนะ (Susukino)

ย่านบันเทิงซูซูกิโนะ (Susukino) นี้เป็นย่านกินดื่ม เที่ยวกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือในประเทศญี่ปุ่นและถือเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของเมืองซัปโปโรอีกด้วย โดยเฉพาะเวลาค่ำคืนที่บรรดาป้ายไฟโฆษณาบนตึกต่างๆ เปิดไฟสลับสีแข่งขันประชันสินค้ากัน ย่านซูซูกิโนะนี้อยู่ถัดมาทางใต้ของสวนโอโดริ ราว 500 เมตร





ตรอกราเมนโยโกโซะ (Ramen Yokocho)


ตรอกราเมนโยโกโซะ (Ramen Yokocho)

ตรอกราเมนโยโกโซะ (Ramen Yokocho) หรือ ตรอกราเมน (Ramen Alley) เป็นศูนย์รวมร้านราเมนที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในซัปโปโร ตรอกราเมนทั้ง 2 แห่งนั้นหาไม่ยาก อยู่หลังตึกที่มีป้ายโฆษณา KIRIN กับ NIKKA โดยอยู่กันคนละมุมถนนที่ขนานไปตามทิศเหนือ - ใต้ โดยตรอกแคบๆ ที่มีร้านราเมนตั้งเรียงรายตลอดทาง แต่ละร้านไม่ได้ใหญ่โต มีที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์รวมกับโต๊ะไม่กี่ที่





พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)


พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของสถานีซัปโปโรราว 1.7 กิโลเมตร ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารสร้างจากอิฐแดง แต่เดิมคือโรงงานผลิตเบียร์ ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2419 เป็นโรงงานผลิตเบียร์แห่งแรกของญี่ปุ่น ปัจจุบันกิจการเจริญเติบโตมีโรงงานหลายแห่งทั่วประเทศ ตึกเก่าหลังนี้จึงถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์ เมื่อ พ.ศ.2530 เปิดให้ผู้สนใจได้เข้าชมฟรีๆ ภายในจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวของกรรมวิธีการผลิตเบียร์ บรรจุภัณฑ์และราคาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน





จุดชมวิวฮิทซึจิงะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill)


จุดชมวิวฮิทซึจิงะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill)

จุดชมวิวฮิทซึจิงะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร มองมาจะเห็นซัปโปโรได้ทั้งเมือง เดินทางไปถึงได้ง่ายๆ ด้วยรถบัสจากกลางเมือง หรือจะนั่งรถไฟใต้ดินไปต่อด้วยรถบัส บนเนินเขามีอนุสาวรีย์ ดร.คล้าก (Dr. William Smith Clark) ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาฮอกไกโด นอกจากนั้นยังมีรูปปั้น 2 นักร้องและผู้แต่งเพลง ซัปโปโร เมืองแห่งความรัก (Koi-no-Machi Sapporo) ถัดไปไม่ไกล มีรอยประทับฝ่ามือ 28 ซุปเปอร์สตาร์ของทีมเบสบอลเจ้าถิ่น และหากไม่ได้มาในช่วงฤดูหนาวที่นี่ก็มีพิพิธภัณฑ์เทศกาลหิมะซัปโปโร จัดแสดงภาพถ่ายแบบจำลองผลงานแกะสลักหิมะและน้ำแข็งที่ชนะในแต่ละปี





เจอาร์ทาวเวอร์ (JR Tower)


เจอาร์ทาวเวอร์ (JR Tower)

เจอาร์ทาวเวอร์ (JR Tower) เป็นตึกที่สูงที่สุดในซัปโปโร ตั้งอยู่ติดกับสถานีเจอาร์ซัปโปโร ที่เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ และศูนย์อาหาร โดยมีจุดชมวิวตั้งอยู่ที่ชั้น 38  เรียกว่า T38 (Tower three Eight) ที่ระดับความสูง 160 เมตร จึงสามารถมองเห็นเมืองซัปโปโรได้กว้างไกลสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน





จุดชมวิวบนยอดเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)


ภาพจากจุดชมวิวบนยอดเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)

จุดชมวิวบนยอดเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa) เป็นอีกที่ที่จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้โดยทั่ว และกว้างไกลจนสุดสายตา ซึ่งเขาโมอิวะตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางหากจะเดินขึ้นไปบนเขาโมอิวะ เพราะมีกระเช้าบริการการเดินทางสะดวกสบายมาขึ้น



10 ที่พักแนะนำในซัปโปโร ญี่ปุ่น






ขอบคุณภาพประกอบจาก
travel-around-japan.com ,japanvisitor.com  ,panoramio.com ,his-bkk.com
Ras's Blog ,addsiam.com ,4G Pocket Wifi ,japan-guide.com ,Map of Japan

ย่านท่องเที่ยวที่น่าสนใจของโตเกียว

ขึ้นขื่อว่าเป็น "มหานครโตเกียว" แล้ว ก็คงนึกถึงความวุ่นวายอันน่าปวดหัว 
แต่ในความวุ่นวายนั้น กลับกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
ที่ดึงดูดให้ผู้คนมากมายหลงไหล 
ครั้งนี้จึงขอแนะนำย่านต่างๆ ที่น่าสนใจในมหานครแห่งนี้ 
ที่มีทั้งย่านที่วุ่นวาย ไปจนถึงย่านที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่ในมหานครโตเกียวแห่งนี้
มาให้ได้รู้จักกัน แต่ก่อนอื่นขอแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับโตเกียวกันสักหน่อยดีกว่า


โตเกียว

โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่ เราๆ ต่างก็รู้จักกันดี โตเกียวได้ผ่านอะไรที่สำคัญมามากมายทั้งแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติอื่นๆ รวมถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โตเกียวถูกทิ้งระเบิดจากฝ่ายสัมพันธมิตรไปมาก จนในยุคปัจจุบันหาชมโบราณสถานได้ยากมาก โตเกียวได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วด้วยเศรษฐกิจเติบโต จนเป็น "มหานครโตเกียว" ในที่สุด ถึงจะเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง แต่ก็ขาดระเบียบและการจัดวางผังเมืองที่ดี จนทำให้หาถนนกว้างขวางแทบไม่ได้เลย อีกทั้งผู้คนมากมายจนมีแต่ความวุ่นวาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย

แผนที่โตเกียว

เมื่อรู้จักประวัติโดยคร่าวๆ แล้วเราก็ไปลุยในโตเกียวกันได้เลย แต่บอกไว้ก่อนนะ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นแต่เป็นส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวมักไปเที่ยวกัน 




อาซากุสะ (Asakusa)

อาซากุสะ (Asakusa) เป็นอีกย่านการท่องเที่ยวหนึ่งที่สำคัญของโตเกียว ด้วยมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)  และสถานที่ช้อปปิ้งอย่างถนนคนเดินนากามิเซะ (Nakamise Dori) ย่านนี้จึงยังคงมีเป็นโตเกียวแบบดั้งเดิมที่แต่งแต้มไว้ด้วยสีสันของการท่องเที่ยว โดยที่ย่านอื่นๆ ได้เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่ที่นี้ยังคงเสน่ห์ของความงดงามในแบบญี่ปุ่นสมัยเก่าจึงกลายเป็นย่านแรกๆ ในโตเกียวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ


วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)
 1. วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดอาซากุสะ เป็นวัดเก่าแก่เป็นที่ประดิษฐ์พระพุทธรูปคันนง จุดเด่นของวัดนี้อยู่ที่ประตูอสุนี หรือประตูคามินาริ (Kaminarimon Gate) และประตูโฮโซม่อน (Hozomon Gate) ที่แควนโคมกระดาษยักษ์ไว้ที่หน้าประตู เป็นที่ถ่ายรูปที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เมื่อเข้าไปด้านในแล้วที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างคือการกวักควันธูปที่กระถางธูปด้านหน้าเข้าหาตัว เพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล



ถนนคนเดินนากามิเซะ (Nakamise Dori)
2. ถนนคนเดินนากามิเซะ (Nakamise Dori) ที่สองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายของฝากของที่ระลึก อาทิ ขนมพื้นเมือง พวงกุญแจ ตุ๊กตา พัด  โคมไฟ เข็มกัด เป็นต้น ตลอดความยาว 250 เมตร ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาหาของฝากตลอดทั้งปี ถนนเส้นนี้จึงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย


ศาลเจ้าอาซากุสะ (Asakusa Shrine)
3. ศาลเจ้าอาซากุสะ (Asakusa Shrine) อยู่ติดกับวัดเซ็นโซจิ ใครที่ไปวัดเซ็นโซจิแล้วก็ไม่ลืมที่จะแวะไปขอพรที่ศาลเจ้าอาซากุสะแห่งนี้ ศาลเจ้าแห่งคนญี่ปุ่นจะแวะเวียนไปขอพรอยู่เสมอ




โปรโมชั่นที่พักราคาพิเศษในโตเกียวจากอโกด้า




อุเอโนะ (Ueno) 

อุเอโนะ (Ueno) เมื่อพูดถึงอุเอโนะ นักท่องเที่ยวต่างก็นึกถึง สวนสาธารณะอุเอโนะ  (Ueno Park) ที่เมื่อถึงฤดูกาลดอกซากุระบาน จะมีผู้คนหลั่งไหลไชมความสวยงาม ณ ที่แห่งนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกครั้งนี้ขอยกถนนอะเมะโยโกะ (Ameyoko Street) มาแนะนำด้วย

สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park)
1. สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park) เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว้างขวางหากคิดจะมาเดินเที่ยวเล่นในสวนแห่งนี้แล้ว เวลาหนึ่งวันคงหมดไปอย่างคุ้มค่าด้วยในสวนแห่งนี้ยังมีสถานที่ให้ได้เที่ยวอีกหลายที่ที่กระจายออกไปตามสวนต่างๆ ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า วัด ไปจนถึงสวนสัตว์
     - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่สำคัญจากทั่วทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจากในญี่ปุ่นเอง มีโบราณวัตถุจัดแสดงกว่า 110,000 ชิ้น
     - พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Museum)
     - พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก (National Museum of Western Art)
     - พิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum)
     - พิพิธภัณฑ์อุเอโนะ (Ueno Royal Museum)
     - พิพิธภัณฑ์ชิตะมาชิ (Shitamachi Museum)
จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวเมืองในสมัยเอโดะ
     - พิพิธภัณฑ์ตะวันออก (Orient Museum) จัดแสดงธรรมเนียมประเพณีและศิลปะของชาวตะวันออก          
     - สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)
     - ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)
     - วัดเบนเทนโด (Bentendou)
ตั้งอยู่กลางบึงน้ำชิโนบาซึ (Shinobazu Pond)ที่อุดมไปด้วยใบบัวดอกบัว นกเป็ดน้ำและพิราบ
     - วัดเคนเนจิ (Kaneiji Temple)
     - อนุสาวรีย์ท่านไซโก้ ทากาโมริ (saigo Takamori) จูงสุนัข
อยู่ตรงทางเข้าใกล้สถานี JR Ueno ท่านไซไก้ได้รับฉายาว่า The Last Samurai


ถนนอะเมะโยโกะ (Ameyoko Street)
2. ถนนอะเมะโยโกะ (Ameyoko Street) ตั้งอยู่เลียงทางรถไฟด้านทิศใต้ของสถานี JR Uano ถึงสถานี Okachimachi เป็นถนนคนเดินอีกเส้นที่เต็มไปด้วยร้าน แผงลอยที่ขายกันตั้งแต่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไปจนถึงสินค้าพื้นเมือง โดยที่สองข้างทางจะมีพ่อค้าแม่ค้าส่งเสียงเรียกลูกค้ากันไม่ขาดสาย

15 ที่พักแนะนำในย่านอุเอะโนะ



อะกิฮาบารา (Akihabara)

อะกิฮาบารา (Akihabara) เป็นย่านที่ขึ้นชื่อว่า เป็นศูนย์กลางแห่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และวิดีโอเกม ที่ขายสารพัดอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงวิดีโอเกม ร้านเกมเซ็นเตอร์ และการ์ตูน เมื่อเดินเข้าไปในย่านนี้แล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับเหล่าสาวคอสเพลย์น่ารักๆ ที่ออกมายืนเรียกลูกค้าให้เพลินตาเพลินใจ

ห้าง Yodobashi Camera
1. ห้าง Yodobashi Camera เป็นห้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Akihabara ห้างแห่งนี้รวบรวมบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท โดยจะแยกประเภทอย่างเป็นสัดส่วนมีสินค้าแบรนด์ดังๆ ให้เลือกมากมาย



ถนนชูโอโดริ
2. ถนนชูโอโดริ เป็นถนนสายหลักของย่านอะกิฮาบารา ถนนเส้นนี้ทั้งสองฝั่งถนนจะเต็มไปด้วยบรรดาร้านวิดีโอเกม แผ่นเกม ร้านของเล่นของสะสมต่างๆ ร้านสินค้าจากการ์ตูนญี่ปุ่น รวมไปถึงเกมเซ็นเตอร์ ปาจิงโกะ และร้านเมดคาเฟ่





กินซ่า (Ginza)

กินซ่า (Ginza) เป็นย่านที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยความหรูหราและทันสมัยของย่านกินซ่านี้ ที่ได้รวบรวมเอาบรรดาห้างร้านที่มีชื่อเสียงและแบรนด์เมนแนวหน้าของโลกเอาไว้มากมาย ในกินซ่าเราจึงสามารถพบเห็นบรรดาหนุ่มนักธุรกิจ สาวออฟฟิต เดินอวดแฟชั้นการแต่งตัวแบบมีรสนิยมให้ชมกันเพลินๆ บนนนกินซ่าโดริ โดยมีโลโก้ของย่านเป็น ห้าง Wako ที่อยู่ตรงหัวมุมสี่แยกใหญ่

ห้าง Wako
1. ห้าง Wako ตั้งอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกใหญ่ โดยตึกนี้เป็นสัญลักษณ์ของย่านกินซ่า ด้วยความโดดเด่นของหอนาฬิกาด้านบนของตึก บริเวณหน้าตึกนี้จึงเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของย่านอีกที่



ถนนกินซ่าโดริ
2. ถนนกินซ่าโดริ ถนนเส้นจะถูกแบ่งออกเป็น 8 บล็อกด้วยกัน โดยตั้งแต่บล็อกที่ 1-4 ถือว่าเป็นสายหลักของกินซ่า วันหยุดจะคึกคักไปด้วยผู้คนที่มากันเป็นครอบครัวและมาเป็นคู่ มีสินค้าที่ในย่านชินจูกุและชิบูย่าไม่มีขายรวมทั้งสินค้าแบรนด์เนม ส่วนบล็อกที่ 5-8 จะเป็นพวกร้านขายของจุกจิกแบบญี่ปุ่นและร้านขนมญี่ปุ่นมากมาย





รปปงงิ (Roppongi)

รปปงงิ (Roppongi) เป็นย่านที่มีเสน่ห์ดึงดูนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชอบท่องราตรี ในรปปงงินักท่องเที่ยวจะได้เจอความแต่ต่างที่สามารถอยู่ในย่านเดียวกัน เมื่อด้านนี้นั้นเสื่อมโทรมไปตามยุคสมัย อาคารบ้านเรือนเก่าๆ ที่ดูคลาสสิค แต่ก็กลับมีอีกด้านที่มีทั้งความทันสมัยแบบสุดๆ อยู่ เป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่มีระดับ และในย่านรปปงงินี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานฑูตของนานาประเทศอีกด้วย

ตึกโมริ (Mori Tower) 
1.  ตึกโมริ (Mori Tower) ที่สูงถึง 54 ชั้น เมื่อมาถึงจะได้เจอกับเจ้าแมงมุมยักษ์ที่ตั้งโดดเด่นอยู่หน้าตึก ภายในตึกมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายจุด
     - ชั้น 54 เป็นจุดชมทิวทัศน์จากมุมสูงที่ Tokyo City View สามารถมองเห็นกรุงโตเกียวได้โดยรอบที่ระดับความสูงที่ 248 เมตร
     - ชั้น 53 หากซื้อตั๋วชม Tokyo Sky View ก็จะสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Mori Art Museum ได้ จะมีผลงานศิลปะหมุมเวียนกันมาจัดแสดง


ทีวีอาซาฮี (TV Asahi)
2. ทีวีอาซาฮี (TV Asahi) เป็นสตูโอผลิตรายการทีวี รวมทั้งการ์ตูนยอดนิยมขวัญใจเด็กๆ อย่าง "โดราเอมอน" และหนังอมตะอย่าง "ซามูไรพ่อลูกอ่อน" ชั้นล่างสามารถเข้าไปชมได้ มีตู้เกมให้เลือกเล่น





ชิบูย่า (Shibuya)

ชิบูย่า (Shibuya) ย่านนี้ถือว่าย่านที่เป็นศูนย์รวมทางด้านวัฒนธรรมและแฟชั่นของวัยรุ่นญี่ปุ่น ชิบูย่าเป็นย่านที่ผู้คนคึกคักตลอดทั้งวันหรือเรียกได้ว่าแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ เมื่อพระอาทิตย์ลับฟ้าที่แห่งนี้ก็จะประดับไปด้วยแสงไฟจากห้างร้าน สถานบันเทิงที่เริ่มเปิดให้บริการ ชิบูย่ามีจุดเด่นอยู่หลายจะ ไม่ว่าจะเป็นแยกใหญ่ที่คนเดินสวนกันไปมาอย่างแยกชิบูย่า ตึก Shibuya109 แหล่งช้อปปิ้งของวัยรุ่น หรือจุดนัดพบยอดนิยมอย่างรูปปั้นฮาชิโกะ (Hachiko) 


แยกชิบูย่า
1. แยกชิบูย่า สีแยกขนาดใหญ่ที่เราเคยเห็นกันมานักต่อนัก ที่จะมีคนเดินนับร้อยเดินสวนกันไปมา ที่จุดนี้ถือเป็นจุดไคลแม็กซ์ของชิบูย่าไปแล้ว หากอยากชมภาพความวุ่นวายนี้ว่าน่าอัศจรรย์ยังไง ลองขึ้นไปบนชั้นสองของร้านสตาร์บัคจิบกาแฟพร้อมกับชมเสน่ห์ของแยกชิบูย่านี้ก็เพลินไปอีกแบบ



ตึก Shibuya109
2. ตึก Shibuya109 เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อของย่านชิบูย่า ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นจะมาเดินช้อปปิ้งภายในมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ที่วัยรุ่นชื่นชอบมารวมกันอยู่มากมาย แล้วยังมีส่วนที่ใช้จัดกิจกรรมอีเว้นท์งานต่างๆ ที่ ตึก Shibuya109 เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมแฟชั่น และกิจกรรมอินเทรนด์ของวัยรุ่นญี่ปุ่นเลย



ฮาชิโกะ (Hachiko)
3. ฮาชิโกะ (Hachiko) สุนัขที่โด่งดังมาจากความซื่อสัตย์ของมัน ณ ตรงที่ตั้งรูปปั้นของฮาชิโกะถือว่าเป็นนัดพบของวัยรุ่นญี่ปุ่น ที่นัดกันมาเจอกันในชิบูย่า




ฮาราจูกุ (Harajuku)

ฮาราจูกุ (Harajuku) ย่านนิยมของยอดนิยมของวัยรุ่นอีกแห่ง ที่ย่านนี้จะสามารถหาชมแฟชั่นแบบแปลกๆ ของวัยรุ่นญี่ปุ่นได้ที่นี่ สวยๆ น่ารัก หรือจะหลุดโลกก็หาชมกันได้ไม่ยาก นักจากเป็นที่รวมตัวของวัยรุ่นแล้ว ที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของวัยรุ่นอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินกันได้ตามความสนใจ บนถนนสองเส้นสำคัญของย่านอย่าง ถนนทาเคชิตะ ( Takeshita Dori ) และถนนโอโมโตะซานโดะ (Omotosando)


ถนนทาเคชิตะ ( Takeshita Dori )
1. ถนนทาเคชิตะ ( Takeshita Dori ) ถนนเล็กๆ หน้าสถานีฮาราจูกุ ถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยบรรดาร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ ทั้งแบบสวยหวาน น่ารัก ไปจนถึงแบบหลุดโลก ที่เห็นแล้วก็ไม่กล้าใส่กันก็มี ถนนนี้จะมีคนเข้ามาเดิมเลือกชมสินค้าอย่างไม่ขาดสาย ไม่เหมาะคนที่ไม่ชอบความแออัดเบียดเสียด

ถนนโอโมโตะซานโดะ (Omotosando)
2. ถนนโอโมโตะซานโดะ (Omotosando) สำหรับคนที่ไม่ชอบความแออัดอย่างถนนทาเคชิตะ ก็ต้องมาเดินที่ถนนเส้นนี้เลย คนญี่ปุ่นจะนิยมมาเดินอวดโฉมหล่อๆ สวยๆ กันที่ถนนเส้นนี้ ถนนโอโมโตะซานโดะมีแหล่งช้อปปิ้งที่น่าไปหลายที่
     -Omotosando Hill ช้อปปิ้งมอลล์หกชั้น สามชั้นอยู่ใต้ดิน มีร้านค้าแฟชั่น ร้านอาหาร ภัตตาคารหรู ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวยความงามหนุ่มสาวไฮโซ
     -Louis Vuitton
     -Cristian Dori, Channel, Gucci 
     -Kiddyland ขายสินค้าสำหรับเด็ก ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของเล่น กิ๊ฟช้อป เครื่องเขียน ขนม
     -Oriental Bazzar สินค้าของฝากของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นร้านใหญ่อีกแห่งในโตเกียวไปหาซื้อของฝากจากญี่ปุ่นกันได้ทั้งชุดกิโมโน ตุ๊กตาญี่ปุ่นเข็มกลัด พัด โคมไฟ ที่บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้
     - Snoopy Town รวบรวมสินค้าของพีนัทส์สารพัดแบบ





ชินจูกุ (Shinjuku)


ชินจูกุ (Shinjuku) ย่านที่วุ่นวายมากที่สุดในโลก ด้วยสถานีชินจูกุเป็นเปลี่ยนรถไฟทั้งบนดินและใต้ดินหลายสาย ช่วงเวลาเร่งด่วนย่านนี้จึงมากมายไปด้วยผู้คนที่เร่งรีบเดินทาง นอกจากความวุ่นวายที่ดูน่าตื่นเต้นนี้แล้ว ชินจูกุยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นอีกแห่งในบรรดาแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเสื้อผ้า สินค้าแบรนด์เนม และอื่นๆ อีกมากมายแล้วที่นี้ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนอีกด้วย


อาคารที่ว่าการมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government)
1. อาคารที่ว่าการมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) ที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาลกรุงโตเกียว บนชั้นที่ 45 เป็นจุดที่ชมวิวกรุงโตเกียวเปิดให้เข้าชมฟรี ในวันที่อากาศดีจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ นอกจากนี้ภายในตึกยังมีร้านค้ามากมายให้ได้เลือกช้อปปิ้งกันอีกด้วย ตึกที่ว่าการนี้จะเปิดทุกวันเวลา 9.30 - 23.00 น.




สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็น(Shinjuku Gyoen National Garden)
2. สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็น(Shinjuku Gyoen National Garden) เป็นสวนสาธารณะที่มีอายุเกือบ 100 ปี มีรูปแบบการจัดสวนแบบทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ และฝรั่งเศล ด้วยสวนนี้เคยเป็นสวนของจักรพรรดิมาก่อน ได้เปิดเป็นสวนสาธารณะเมื่อปี 1949 มีอายุเกือบ 100 ปีแล้ว ความพิเศษของสวนนี้ มีต้นซากุระมากถึง 1,500 ต้น เมื่อถึงช่วงซากุระบานจึงเต็มไปด้วยดอกซากุระ



คาบูกิโจ (Kabukicho)
3. คาบูกิโจ (Kabukicho) ถือเป็นที่ที่นักท่องราตรีต่างอยากลองเข้าไปเที่ยว ที่นี้จะคล้ายกับพัฒน์พงศ์ในบ้านเรา สองข้างทางภายซอยนี้จะมีตั้งแต่ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้านเกมปาจิงโกะ สถานเริงรมณ์ทั้ง ในท์คลับ ผับ บาร์ โรงภาพยนตร์ที่มีทั้งภาพยนตร์ทั่วไป จนถึงเรทสำหรับผู้ใหญ่ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปที่นี้จะคึกคักมาก



Isetan
4. Isetan ห้างเก่าแก่ที่เปิดมานาน เป็นผู้นำของทุกๆ ห้าง ขายสินค้าทั่วไป พวกเสื้อผ้า ของใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์กอล์ฟ และอื่นๆ ภายใน Isetan



ร้าน 100 เยน (100 Yen Shop)
5. ร้าน 100 เยน (100 Yen Shop) ของทั้งร้านจะราคา 100 เยน ของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกของใช้ทั่วไป ของใช้ในชีวิตประจำวัน จะชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ก็ราคา 100 เยน



ร้านเครื่องสำอางค์มัตสึโมโต้ คิโยชิ (Mutsumoto Kiyoshi)
6. ร้านเครื่องสำอางค์มัตสึโมโต้ คิโยชิ (Mutsumoto Kiyoshi) เหมือนซูเปอร์มาเก็ตขนาดย่อมๆ มีหลายสาขากระจายไปทั่วญี่ปุ่น จะขายของประเภทเครื่องสำอางค์ และผลิตภัณฑ์ทั่วไป สบู่ ยาสระผม ผลิตภัณฑ์ประทินผิว 





อิเคะบูคูโระ (Ikebukuro)


อิเคะบูคูโระ (Ikebukuro) เป็นแหล่งช้อปปิ้งอีกแห่งของคนโตเกียว ที่รวบรวมบรรดาห้างร้านมากมายไว้ในย่านอิเคะบูคูโระนี่ ให้ได้ช้อปกันกระจาย อีกทั้งที่นี่ยังเป็นย่านกลางคืนที่มีร้านค้าสถานที่บันเทิงยามค่ำคืนเปิดบริการมากมาย สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งวันยันค่ำเลย และที่เหล่าผู้หลงไหลในอนิเมะไม่ควรพลาด เพราะอิเคะบูคูโระนี่ยังเป็นแหล่งที่รวมบรรดาร้านหนังสือการ์ตูนชื่อดังเอาไว้หลายร้าน ให้เหล่าโอตาคุและสาววายได้เพลินเพลินไปกับบรรดาการ์ตูนเรื่องโปรดแบบไม่มีวันลืมกันเลย ในย่านอิเคะบูคูโระนี่ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ

ห้าง Seibu
1. ห้าง Seibu ห้างในเครือเซบุกรู๊ปสาขาที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในโตเกียวเป็นแห่งแรก ที่รวบรวมสินค้าเอาไว้มากมายหลากหลายแบบ และหากใครที่อยากได้ของดิสนีย์แต่ไม่มีเวลาไปถึงโตเกียวนิสนีย์ ที่ขั้น 7 ของห้างมีร้านที่ดิสนีย์สโตร์ที่ขายสินค้าของดิสนีย์หลากหลายแบบ




ร้าน Sakuraya
2. ร้าน Sakuraya สาขาอิเคะบูคูโระ ที่นี่มีทั้งหมด 8 ชั้น แต่ละชั้นจะแบ่งสินค้าเป็นหมวดๆ เน้นพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ราคาถือว่าถูกกว่าร้านทั่วไปเล็กน้อย และสามารถต่อรองราคาได้






Big camera
3. Big camera เป็นตึกสูง 9 ชั้นที่คนรักกล้องไม่ควรพลาด นอกจากกล้องแล้วยังเน้นไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าแต่บ้าน, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, เกม, ดีวีดี, และนาฬิกา โดยจะมีพนักงานค่อยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่างๆ ภายในร้านอยู่ตลอด ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่โดยเฉพาะกล้องราคาจะถูกกว่าที่ไทย 30-40% และยังมีรุ่นใหม่ๆ ที่บ้านไทยยังไม่มีด้วย





ซันไชน์ซิตี้ (Sunshine City)
4. ซันไชน์ซิตี้ (Sunshine City) เป็นห้างสรรพสินค้าที่น่าสนใจอีกแห่ง แต่ที่ดูไม่ธรรมดาก็ตรงที่ ภายในตึกแห่งนี้รวบรวมบรรดาร้านค้าเอาไว้ภายในตึกมากกว่า 300 ร้าน ทั้งยังมีร้านอาหาร โรงแรม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ดาดฟ้าชมวิวที่ชั้น 60 สวนสนุกในร่ม ท้องฟ้าจำลอง พิพิธภัณฑ์ตะวันออกโบราณ ศูนย์ประชุม โรงละคร  ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินได้ไม่ยาก





ตึก Animate
5. ตึก Animate ที่นี่เป็นสาขาแรก มีอยู่หลายชั้น ชั้นแรกเป็นนิตยสาร ของออกใหม่ ชั้น 2-3 เป็นหนังสือการ์ตูน ชั้น 4-5 ขายพวกสินค้าอนิเม ของที่ระลึก ชั้น 6 ขาย CD ชั้น 7 ขาย DVD  ที่นี่ถือว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดาผู้หลงไหลอนิเมะแท้ๆ





K-Books
6. K-Books มีอยู่หลายร้านในอิเคะบูคูโระ และแต่ละร้านก็จะขายสินค้าที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เช่น หนังสือการ์ตูนอนิเมะ ชุดคอสเพลย์ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆ กัน ที่นี่สำหรับบรรดาสาววายและโอตาคุแล้วไม่ควรพลาด





โอไดบะ (Odaiba)


โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะที่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์โดยการถมทะเล เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันประเทศในช่วง ค.ศ.1853 จนเมื่อเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 20 เมืองโอไดบะได้เติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะเขตท่าเรือ จนกระทั้งช่วงทศวรรษที่ 1990 โอไดบะได้กลายเป็นย่านการค้า ย่านพักอาศัย และนันทนาการที่ใหญ่โตแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เมืองโอไดบะมีหลายจุดเด่นหลายสถานที่ที่น่าสนใจ

สะพานสายรุ้ง (Rainboe Bridge)


1. สะพานสายรุ้ง (Rainboe Bridge) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างโตเกียวและโอไดบะ เป็นสะพานแขวนแบบสองชั้นที่สร้างขึ้นเหนืออ่าวโตเกียว สะพานนี้มีความกว้าง 570 เมตร สามรถที่จะขับรถ เดิน หรือนั่งรถไฟข้ามสะพานนี้ไปได้ อีกทั้งสะพานนี้ยังเป็นเครื่องหมายเชิงสัญลักษณ์ของเกาะโอไดบะไปแล้ว ในยามค่ำคืนสะพานแห่งนี้จะถูกประดับประดาไปด้วยแสงจากดวงไฟที่ถูกติดไว้ตามเส้นลวดที่ขึงสะพานเป็นสีสันที่สวยงาม ใกล้กับสะพานยังมีรูปปั้นเทพีเสรีภาพจำลองที่เหมือนกับประเทศอเมริกาแต่มีขนาดเล็กกว่าอีกด้วย

พาเลตทาวน์ (Palatte Town)


2. พาเลตทาวน์ (Palatte Town) แหล่งรวมความบันเทิงความทันสมัยขนาดใหญ่อีกแห่งของ ที่ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่ง
           - เมกะเว็บ (Mega Wed) โชว์รูมสินค้าของผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังโตโยต้า ด้านในจัดแสดงโมเดลรถในแบรนด์โตโยต้าที่ผ่านมาทุกรุ่น พร้อมนิทรรศการเกี่ยวกับรถของโตโยต้า มีเครื่องเลยซิมูเลเตอร์ให้ทดลองขับ จุดทดลองขับรถยนต์ E-Com สนามขับรถขนาดเล็กสำหรับเด็ก มุมแสดงรถยนต์รุ่นไฮบริด และอีกมากมาย
          - ชิงช้าสวรรค์ไดกังรันซะ (Daikanransha) ที่มีความสูง 115 เมตร ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เมื่อไปถึงจุดสูงสุดจะสามารถมองเห็น Rainbow Bridge และหอคอยส่งสัญญาณถึง 2 หอคอย คือ Tokyo Tower และ Tokyo Sky Tree ช่วงกลางคืนรอบๆ วงของชิงช้าจะเจิดจรัสไปด้วยหลอดนีออนหลายหลากสีกว่า 120,000 หลอด ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้เปลี่ยนรูปแบบตำแหน่งของสีสันของหลอดนีออนกว่า 100 แบบ
          - สวนสนุกโตเกียวเลเซอร์แลนด์ (Tokyo Leisure Land) อยู่ข้างๆ กับชิงช้าสวรรค์ไดกังรันซะ ที่นี่เป็นศูนย์รวมความสนุกขนาดใหญ่ เพราะมีทั้งเกมเซ็นเตอร์, ลานโบว์ลิ่ง, คาราโอเกะ, สวนสนุกขนาดย่อม เครื่องเล่นกีฬาจำลอง หรือแม้แต่มุมสนุกของเด็กๆ ที่สำคัญแต่ละมุมไม่เสียค่าเข้าชมยกเว้นตอนจะเล่นเกมหรือเครื่องเล่นเท่านั้น
          - วีนัสฟอร์ต (Venus Fort) ช้อปปิ้งมอลล์แห่งแรกของญี่ปุ่น ที่ออกแบบในลักษณะของ Theme Park Shopping Mall เน้นสถาปัตยกรรมภายในแบบอิตาลี (คล้ายกับเวเนเชียน คาสิโน่ชื่อดังของมาเก๊า เพียงแต่ไม่มีคลองเท่านั้น) โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงท้องฟ้าจำลอง ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีสันบรรยากาศได้

ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza)


3. ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza) เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe) และถ้าอยากเข้าไปดูนิทรรศกาลกันดั้ม ก็ต้องไปที่ กันดั้มฟรอนท์ (Gundam Front) ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง ไดรเวอร์ซิตี้

ห้างอควาซิตี้ โอไดบะ (Aquacity Odaiba)


4. ห้างอควาซิตี้ โอไดบะ (Aquacity Odaiba) นี่ก็เป็นห้างสรรพสินค้าอีกห้างหนึ่งที่คนมานิยมเที่ยวกัน แต่จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ชั้นห้า เป็น ราเม็ง ฟู๊ด ทีมพาร์ค (Ramen Food Theme Park) รวบรวมราเม็งชนิดต่างๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาไว้ให้รับประทานกันไปเลยที่เดียว และที่นี่ยังเป็นจุดยอดนิยมสำหรับชมวิว สะพานสายรุ้ง อีกด้วย อควาซิตี้อยู่ด้านหน้าสถานีโทรทัศน์ฟูจิ

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ สำหรับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่


5. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ สำหรับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ (National Museum of Emerging Science and Innovation) เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่รวบรวม เรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่เรื่องสิ่งแวดล้อม ชีววิทยา ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ และเรื่องราว เกี่ยวกับหุ่นยนต์ มีการจัดนิทรรศการอยู่บ่อยครั้ง เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แห่งนี้มีชื่อเรียก อีกชื่อหนึ่งว่า มิไรคัง (Miraikan) 

ตึกฟูจิทีวี (Fuji TV Building)


6. ตึกฟูจิทีวี (Fuji TV Building) เป็นตึกสำนักงานใหญ่ของ สถานีโทรทัศน์ฟูจิ เป็นตึกที่สูงและมีขนาดใหญ่ สร้างด้วยความอลังการยิ่งใหญ่อย่างมาก ด้านบนเปิดเป็นหอสังเกตการณ์ สามารถขึ้นไปชมวิวเกาะ โอไดบะได้



โปรโมชั่นที่พักราคาพิเศษในโตเกียวจากอโกด้า


10 ที่พักแนะนำในโตเกียว ญี่ปุ่น



ชอบเรื่องนี้? ช่วยกด Like หรือ กด Share ให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ






ขอบคุณภาพประกอบจาก
โตเกียว.net ,ticket-worldtravel ,Excel ,flickr ,DeeryArch.me ,Suvanai's Space
GoJapanGo.com ,airbnb ,chill chill japan news ,Minowa ,mori-hills-reit.co.jp
J-PLAN HOLIDAY ,Tokyo fashion.com ,My Life is a Journey ,muza-chan.net
kanpai-japan.com ,fr.wikipedia.org ,Shinjuku Daily Photo ,Spectacle in Japan ,japan
commons.wikimedia.org ,sakura-hotel-ikebukuro.com ,MARCOTOGNI.IT
Comics212 ,flickr ,wondersupertrips.com ,travel.thaiza.com ,travelneatntravel