สถานที่ท่องเที่ยวในนางาซากิ

นางาซากิ เมืองหนึ่งที่เป็นกลายเป็นเมืองประวัติศาสตรเมื่อ ระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตกลงที่นี้ แต่เมืองแห่งนี้ไม่ได้มีความน่าสนใจเพียงเรื่องนี้อย่างเดียว แต่เมืองนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและน่าสนใจมากกว่านั้น หากอยากรู้เมืองจะมีความน่าสนใจอย่างไร ลองอ่านและไปพิสูจน์ด้วยตัวเองกันเลยดีกว่า





นางาซากิ


นางาซากิ (Nagasaki) ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิ (Nagasaki Ken) อยู่ทางชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ มีการติดต่อกับชาติใกล้เคียงอย่างจีนและเกาหลี จนเมื่อชาวโปรตุเกตเข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นางาซากิเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากการถูกทิ้งระเบิดปรมาณูครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองแหง่นี้จึงกลายเป็นเมืองแห่งสันติภาพ เพื่อใหดชาวโลกตะหนักถึงพิษภัยของจากสงครามที่มีแต่ความสูญเสีย ภูมิประเทศของนางาซากิเป็นน่าเที่ยว บ้านเรือนตั้งอยู่บนเนินเขาที่ลดลั่นกันมาและบรรยากาศสบายๆ จากลมทะเลที่พัดเข้ามา อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกสบาย



แผนที่นางาซากิ





โบสถ์คาทอลิคโออุระ (Oura catholic Church)


โบสถ์คาทอลิคโออุระ (Oura catholic Church)

โบสถ์คาทอลิคโออุระ (Oura catholic Church) นั่งรถรางไปลงที่ป้าย Oura Tenshudo-shita แล้วเดินขึ้นเนิน ก็จะเห็นยอดของโบสต์ที่ตั้งสูงโดดเด่นสวยงาม โบสต์คาทอลิคโออุระ สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.1865 เพื่อเป็นการระลึกถึงมิชชันนารีและชาวคริสต์ญี่ปุ่นที่ถูกตรึงกางเขนทั้ง 26 คน เมื่อสมัยเอโดะด้วยทางการญี่ปุ่นกลัวการโค่นล้มอำนาจจากชาวญี่ปุ่นที่หันไปนับถือศาสนาคริสต์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในบริเวณมีปฏิมากรรมนักบวชถูกตรึงกางเขนและภาพแกะสลักหินการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น เข้าไปภายในโบสต์มีภาพกระจกสีที่สวยงามอยู่ด้วย





สวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden)


Glover House

สวนโกลฟเวอร์ (Glover Garden) เป็นพื้นที่ของบริษัท Glover & Co. ก่อตั้งโดยชาวสก็อตชื่อ โทมัส เบล็กโกลฟเวอร์ ที่เดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ.2402 บริษัทแห่งนี้มีส่วนในการพัฒนานางาซากิและสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับเมือง ไม่ว่าจะเป็น ทางรถไฟสายแรก โรงกษาปน์แห่งแรก โรงพิมพ์ อู่ต่อเรือ เป็นต้น เมื่อ โทมัสได้แต่งงานกับสาวเกอิชานางหนึ่งจึงได้สร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ขึ้น โดยนำสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและญี่ปุ่นมาผสมเข้าด้วย ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในสวนก็ยังมีอาคารอีกหลายหลังตั้งอยู่ เมื่อมองลงมาจากด้านบนจะมองเห็นทิวทัศน์อ่าวนางาซากิ ท่าเรือและตัวเมืองได้อย่างชัดเจน

Dock House

อาคารหลังที่อยู่บนสุดเป็นบ้านพักของลูกเรือของบริษัทมิตซูบิชินางาซากิ (Former Mitsubishi No.2 Dock House) ภายในจัดแสดงโมเดลเรือ ภาพการเดินเรือในสมัยโบราณ ภาพถ่ายของท่าเรือนางาซากิ ด้านบนเป็นจุดชมวิวบริเวณท่าเรือนางาซากิ ก่อนถึงคฤหาสน์ของโกลฟเวอร์ จะต้องเดินผ่าน อาคารอีกหลายหลาย อาทิ Walker House, Ringer House, Alt House เป็นต้น ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ภาพถ่ายเรื่องราวของเจ้าของบ้านและคุณาประโยชน์ที่มีต่อชาวญี่ปุ่น มาถึงไฮไลต์คือ คฤหาสน์โกลฟเวอร์ (Glover House) เป็นอาคารไม้สไตล์ยุโรปชั้นเดียว ที่ลานด้านหน้าของคฤหาสน์มีหินรูปหัวใจว่ากันว่าถ้าหาหินนี้เจอจะสมหวังในความรัก





เนินฮอลแลนด์ (Hollander Slope, Dutch Slope)


เนินฮอลแลนด์ (Hollander Slope, Dutch Slope)

เนินฮอลแลนด์ (Hollander Slope, Dutch Slope) จากสถานีรถราง Shiminbyoin-mae เดินขึ้นเนินตามทางที่ปูจากหินผ่านกำแพงอิฐเก่าสลับอาคารแบบตะวันตก ที่นี่เคยเป็นชุมชนของชาวดัตช์ ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่หลัง ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า โอรันดะ ซางะ (Oranda Zaga) บ้านเลขที่ 12 Higashiyamate นั้นถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีและจักเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์ของนางาซากิและการเข้ามาของชาวดัตช์





นางาซากิ ไชน่าทาวน์ (Nagasaki chinatown)


นางาซากิ ไชน่าทาวน์ (Nagasaki chinatown)

นางาซากิ ไชน่าทาวน์ (Nagasaki chinatown) อยู่ห่างจากเนินฮอลแลนด์ ประมาณ 500 เมตร ถ้ามารถรางก็ให้ลงที่สถานี Tsuki-machi ไชน่าทาวน์นางาซากิเป็น 1 ใน 3 ของไชน่าทาวน์ในญี่ปุ่น เป็นชุมชนชาวจียที่ส่วนใหญ่อพยพมาจากมณฑลฟูเจี้ยน เดิมทีอาศัยอยู่ใกล้กับวัดโคฟุกุจิ แต่เกิดไฟไหม้ทางการจึงจัดที่พักให้อยู่ในย่านชินจิมาจิ (Shichi-machi) จนถึงปัจจุบัน ที่นี่ยังเป็นแห่งเดียวที่ยังมีสถาปัตยกรรมแบบจีนแท้ๆ หลงเหลืออยู่





สะพานแว่นตาเมงาเนะบาชิ (Meganebashi)


สะพานแว่นตาเมงาเนะบาชิ (Meganebashi)

สะพานแว่นตาเมงาเนะบาชิ (Meganebashi) เป็นสะพานหินเก่าแก่ทออดข้ามแม่น้ำนากาชิมะ (Nakashimagawa) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองนางาซากิ สะพานนี้สร้างโดยพระภิกษุจากวัดโคฟุกุจิ ในปี พ.ศ.2177 เพื่อเป็นหนทางไปสู่ตัววัด เดิมสะพานแห่งนี้เป็นสะพานหินโค้งที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่เมื่อครั้งเกิดอุทกภัยใหญ่ พ.ศ.2505 ตัวสะพานได้พังทลายลง สะพานที่เห็นปัจจุบันเป็นสะพานที่สร้างขึ้นมาโดยการเลียนแบบสะพานเดิม





วัดโคฟุกุจิ (Kofukuji Temple)


วัดโคฟุกุจิ (Kofukuji Temple)

วัดโคฟุกุจิ (Kofukuji Temple) เป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2163 ตรงเชิงเขาด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง ติดกับชุมชนคนจีนเดิมที่ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ในย่านชินจิมาจิ ตัววัดสร้างโดยการใช้สถาปัตยกรรมแบบจีน โดยมีวิหารหลังใหญ่ภายในและภายนอกทาด้วยสีแดงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ สวนภายในวัดก็รับอิทธิพลจากจีนมา





วัดโซฟุกุจิ (Sofukuji Temple)


วัดโซฟุกุจิ (Sofukuji Temple)

วัดโซฟุกุจิ (Sofukuji Temple) ตั้งอยู่บนเชิงเขาห่างจากวัดโคฟุกุจิประมาณ 700 เมตร สร้างโดยพระโชเน็ง เมื่อปี พ.ศ.2172 เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมในช่วงยุคราชวงศ์หมิงของจีน ซุ้งประตูทางเข้าทาด้วยสีแดงเป็นซุ้มประตูแห่งเดียวในญี่ปุ่น จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติสำคัญของชาติ ด้านวิหารของวัด วิหารมาโซโดะ มีรูปปั้นยักษ์เฝ้าประตูอยู่ 2 ตน ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมและองค์เจ้าแม่หม่าโจว เทพีแห่งท้องทะเลที่ค่อยปกป้องชาวเรือ





พิพิธภัณฑ์มินิเดจิมะ (Mini Dejima)


พิพิธภัณฑ์มินิเดจิมะ (Mini Dejima)

พิพิธภัณฑ์มินิเดจิมะ (Mini Dejima) ดัดแปลงจากโกดังเก่า มีแบบจำลองชุมชนบนเกาะเดจิมะในอดีต ซึ่งเคยเป็นชุมชนสำหรับพ่อค้าชาวต่างชาติที่จะเข้ามาติดต่อค้าขายหลังจากที่ญี่ปุ่นได้มีการปราบกบฏชิมมาบาระและปิดประเทศผ่านมา 200 ปี ชุมชนเล็กๆ มีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบมีอาคารอยู่หลายหลัง ทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว นอกจากนี้ยังมีอาคารแสดงนิทรรศการหลายหลัง โรงภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของอาณาจักรดัตช์ในแห่งนี้ ผู้ที่ได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาในญี่ปุ่น





อนุสรณ์สถานแห่งการทรมานนักบุญทั้ง 26 (Site of the Martyrdom of the 26 Saints)


อนุสรณ์สถานแห่งการทรมานนักบุญทั้ง 26 
(Site of the Martyrdom of the 26 Saints)

อนุสรณ์สถานแห่งการทรมานนักบุญทั้ง 26 (Site of the Martyrdom of the 26 Saints) ซึ่งสร้าง ณ บริเวณที่นักบุญทั้ง 26 คนได้ถูกตรึงกางเขน โดยมีเป็นมิชชันนารีชาวสเปน 6 คนและชาวคริสต์ญี่ปุ่น 20 คน เมื่อครั้งญี่ปุ่นมีการกวาดล้างผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศ ผู้เสียชีวิตทั้ง 26 คนได้รับการยกย่องจากพระสันตปาปา เมื่อ ค.ศ.1862 ร้อยปีต่อมาจึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ขึ้นในประเทศญี่ปุ่น





สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park)


สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park)

สวนสันติภาพนางาซากิ (Nagasaki Peace Park) เดินจากสถานีรถราง Matsuyama-machi เดินขึ้นเนินไปก็ถึง บริเวณของสวนสันติภาพนางาซากิมีน้ำพุอยู่ตรงทางเข้า สร้างเพื่อรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูที่กระหายน้ำจนเสียชีวิต เลยเข้าไปจะพบกับอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ผู้ชายที่สร้างขึ้นเพื่อให้สื่อถึงภัยของระเบิดปรมาณูและความปรารถนาในสันติภาพ นอกจากนี้ภายในสวนยังมีรูปปั้นที่สื่อถึงการขอสันติภาพแก่โลกอีกหลายแบบ สวนแห่งนี้สร้างทับพื้นที่ของคุกเก่าที่ยังคงหลงเหลือร่อยรอยของกำแพงให้เห็นอยู่ ยังมีผู้คนนำดอกไปวางไว้เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้คุมและนักโทษที่เสียชีวิตครั้งนั้น เพราะคุกแห่งนี้อยู่ห่างจากจุดทิ้งระเบิดไปไม่กี่ร้อยเมตร





โบสถ์อุราคามิ (Urakami Cathedral)


โบสถ์อุราคามิ (Urakami Cathedral)

โบสถ์อุราคามิ (Urakami Cathedral) โบสถ์โรมันคาทอลิคที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ห่างจากสวนสันติภาพประมาณ 400 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1925 แต่ที่เห็นในปัจจุบันนั้นได้สร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี ค.ศ.1959 ซึ่งโบสถ์เก่านั้นได้ถูกอานุภาพของระเบิดปรมาณูที่ตกห่างไปไม่สิบเมตรทำลายไปจนหมด ซึ่ง ณ เวลานั้นมีบาทหลวงและชาวคริสต์กำลังสวดมนต์อยู่ภายในโบสถ์ ที่บริเวณหน้าโบสถ์มีรูปสลักหินนักบุญไร้ศีรษะไหม้เกรียมจากแรงระเบิดตั้งไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงความน่ากลัวของสงคราม





พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)


พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)

พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum) ภายในจัดแสดงเรื่องราวของการถูกระเบิดของเมืองด้วยลูกระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 จนเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องประกาศแพ้สงคราม เมื่อเข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์จะพบภาพจำลองความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในโบสถ์อุราคามิประกอบเสียงสวดที่ก้องออก ทั้งยังมีหลักฐานความสูญเสียที่เก็บรวบรวมเอา ในพิพิธภัณฑ์ยังมีข้อมูลของระเบิดปรมาณูที่ยังคงมีอยู่ในโลกใบนี้





วิวบนยอดเขาอินาสะ (Mt.Inasa Ropeway)


วิวบนยอดเขาอินาสะ (Mt.Inasa Ropeway)

วิวบนยอดเขาอินาสะ (Mt.Inasa Ropeway) ในยามค่ำคืนนั้นเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ด้วยวิวของเมืองนางาซากิในเวลาค่ำคืนนั้นถือว่าสวยงามมากด้วยแสงไฟที่ ส่องสว่างในเวลาค่ำ ต้องนั่งกระเช้าที่สถานีกระเช้าไฟฟ้า Nagasaki Ropeway ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงจุดชมวิวบนยอดเขาอินาเสะ (Inasa Lookuot and Park) ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 333 เมตร สามารถมองเห็นวิวของเมืองนางาซากิได้ทั้งเมือง





สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์ (Huis Ten Bosch)


สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์ (Huis Ten Bosch)

สวนสนุกสไตล์ฮอลแลนด์ สวนสนุกเฮ้าส์ เท็น บอสซ์ (Huis Ten Bosch) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลใกล้เมืองซาเซะโบะ (Sasebo) แต่ยังอยู่ในจังหวัดนางาซากิ เดินทางมาได้ง่ายทั้งฟุกุโอกะและนางาซากิ  ที่นี่เป็นทั้งสวนสนุกและรีสอร์ทสไตล์ฮอลแลนด์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2535 เพื่อเป็นที่สถานที่หย่อนใจและรำลึกถึงชาวดัตช์ ภายในถูกจัดให้เหมือนเมืองฮอลแลนด์ที่มีทั้งกังหันลม ทุ่งดอกทิวลิป ลำคลอง บ้านไม้จำลอง พระราชวังของพระราชีนี Beatrix แห่งเนเธอร์แลนด์ และอื่นๆ อีกมากมาย





ขอบคุณภาพประกอบจาก
Map of Japan ,konggal.wordpress.com ,dres2222 ,japan-guide.com
tripadvisor.com ,Chaos and Kanji ,japancheckin.com ,en.wikipedia.org
LASTING TRANSITIONS ,Cori ,blackpanpawee ,napiratravel.com