ผู้ให้บริการหลักๆ ที่คนไทยนิยมเช่าใช้กันก็จะมี 4G Pocket WIFI และ BS-Pocket Wifi
ส่วนตัวตอนแรกผมตั้งใจจะเช่าของ 4G Pocket WIFI เพราะว่ามีอุปกรณ์ให้เลือกเยอะกว่า แต่หลังจากกรอกข้อมูลทุกอย่างผ่านหน้าเว็บเรียบร้อยแล้ว พอดีมีข้อสงสัยเลยกดโทรศัพท์ถามเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่แจ้งไว้ในหน้าเว็บ แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ซักที ลองอยู่หลายรอบ สุดท้ายถอดใจ
เลยเปลี่ยนไปลองเข้าเว็บ BS-Pocket WIFI (http://www.bs-mobile.jp/th/) แทน ซึ่งพอเข้าไปดูก็เห็นว่ามีให้อุปกรณ์ให้เลือกแค่อย่างเดียวคือแบบ speed 187.5 Mbps ในราคา 280 บาท / วัน แต่ของ 4G Pocket WIFI ในระดับ speed ที่เท่ากันให้เช่าในราคา 300 บาท / วัน
ในส่วนของจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ
bs-mobile เชื่อมต่อได้ 14 เครื่องพร้อมกัน
4G Pocket WIFI เชื่อมต่อได้ 10 เครื่องพร้อมกัน
สุดท้ายสรุปว่าผมเลือกเช่าของ bs-mobile เพราะผมให้คะแนนเต็มเรื่องของความสะดวกในการติดต่อเจ้าหน้าที่ คือโทรไปสอบถามอะไรทุกครั้งมีคนรับสายและให้คำตอบได้ทุกครั้ง
.
.
วิธีการเช่าเครื่องก็ง่ายๆ ครับ แค่เข้าไปที่หน้าเว็บ http://www.bs-mobile.jp/th/ แล้วก็กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ส่วนวิธีชำระเงินก็มีทั้งโอนเงินและจ่ายด้วยบัตรเครดิต
วิธีการรับเครื่องก็มีทั้งไปรับด้วยตัวเองที่สนามบิน ทั้งที่ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ หรือถ้าใครอยู่ในกรุงเทพฯ เราจะให้เค้าจัดส่งมาให้ที่บ้านก็ได้ครับ
แต่ส่วนตัวผมไปรับที่สนามบินก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยครับ เพราะว่าเค้าเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า
ผมเช่าเครื่องและไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เลยเปลี่ยนไปลองเข้าเว็บ BS-Pocket WIFI (http://www.bs-mobile.jp/th/) แทน ซึ่งพอเข้าไปดูก็เห็นว่ามีให้อุปกรณ์ให้เลือกแค่อย่างเดียวคือแบบ speed 187.5 Mbps ในราคา 280 บาท / วัน แต่ของ 4G Pocket WIFI ในระดับ speed ที่เท่ากันให้เช่าในราคา 300 บาท / วัน
ในส่วนของจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ
bs-mobile เชื่อมต่อได้ 14 เครื่องพร้อมกัน
4G Pocket WIFI เชื่อมต่อได้ 10 เครื่องพร้อมกัน
สุดท้ายสรุปว่าผมเลือกเช่าของ bs-mobile เพราะผมให้คะแนนเต็มเรื่องของความสะดวกในการติดต่อเจ้าหน้าที่ คือโทรไปสอบถามอะไรทุกครั้งมีคนรับสายและให้คำตอบได้ทุกครั้ง
.
.
วิธีการเช่าเครื่องก็ง่ายๆ ครับ แค่เข้าไปที่หน้าเว็บ http://www.bs-mobile.jp/th/ แล้วก็กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ส่วนวิธีชำระเงินก็มีทั้งโอนเงินและจ่ายด้วยบัตรเครดิต
วิธีการรับเครื่องก็มีทั้งไปรับด้วยตัวเองที่สนามบิน ทั้งที่ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ หรือถ้าใครอยู่ในกรุงเทพฯ เราจะให้เค้าจัดส่งมาให้ที่บ้านก็ได้ครับ
แต่ส่วนตัวผมไปรับที่สนามบินก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยครับ เพราะว่าเค้าเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า
ผมเช่าเครื่องและไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ
บูธจะตั้งอยู่ตรงบริเวณประตูทางเข้าหมายเลข 7 ชั้น 4 ครับ หาไม่ยากเลย
ตอนเราเช่าเครื่องเค้าจะให้เลือกว่าเราต้องการเช่าแบตสำรองด้วยหรือเปล่า
ถ้าต้องการแบตสำรอง ก็เสียเพิ่มอีก 50 บาท / วัน แต่ถ้าเรามีแบตสำรองที่ใช้กับโทรศัพท์อยู่แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องเช่าเพิ่มก็ได้ครับ เพราะว่าเท่าที่ใช้ดูแบตก็อึดพอสมควรครับ ไม่หมดง่ายๆ หรือถ้าแบตใกล้หมด เราก็สามารถใช้แบตสำรองที่เราใช้กับมือถือของเราได้ครับ
นอกนั้นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็จะเป็นค่าประกัน ตกวันละประมาณ 50 บาท ส่วนตัวผมขอซื้อเพิ่มครับ เพราะถ้าเครื่องเกิดมีปัญหาระหว่างใช้ เราต้องเสียตังค์เยอะกว่านั้น
วิธีการใช้งานก็ไม่ยากเลยครับ
เค้าจะมีคู่มือให้แบบนี้
พอบินไปถึงญี่ปุ่นแล้วก็ทำแค่ 4 ขั้นตอนตามคู่มือเลยครับง่ายมาก
การใช้งานด้วยความเร็วระดับ 187.5 Mbps ถือว่าเร็วมากแล้วครับ
แต่ถ้าใครต้องการความเร็วที่มากกว่านี้ก็คงต้องเลือกเป็นของทาง 4GPocketWIFI แทนนะครับ
ขอจบรีวิวเกี่ยวกับเช่าเครื่อง Pocket Wifi เท่านี้นะครับ
ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถคลิกพูดคุยได้ทาง inbox ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ