ดอกซากุระในประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงราวกลางเดือนพฤษภาคม
ซึ่งดอกซากุระในแต่ละเมืองทั่วประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มบานในช่วงเวลาที่ต่างกัน
และในแต่ละจุดที่ดอกซากุระบานจะมีเวลาให้ได้ชมกันราว 1 - 2 สัปดาห์เท่านั้น
ดังนั้นหากใครต้องการไปเที่ยวชมดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะก็
แนะนำว่าควรจะต้องดูตารางการคาดการณ์ดอกซากุระให้เรียบร้อยการ
ซึ่งสามารถดูได้จากลิงค์ด้านล่างนี้
ดอกซากุระจะเริ่มบานจากทางตอนใต้ไล่ขึ้นไปถึงเหนือสุด
เพราะว่าดอกซากุระจะบานหลังจากหมดฤดูหนาวไปแล้ว
ซึ่งทางตอนใต้ไล่จากโอกินาวาจะหมดฤดูหนาวก่อนเมืองอื่นๆ
ทำให้ซากุระจะเริ่มบานก่อน หลังจากนั้นก็ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ และ จบที่เกาะฮอกไกโด
เนื่องจากจุดชมดอกซากุระในญี่ปุ่นมีมากมายจนบางทีเราอาจจะเลือกไม่ถูก
ทางทีมงาน HolidayThai.com จึงขอคัดสรรจุดชมดอกซากุระบาน
ที่ได้รับความนิยม และ ได้รับการยอมรับว่างามจริงๆ มาให้ได้เลือกชมกัน
เพื่อชีวิตการท่องเที่ยวที่ง่ายขึ้นของเพื่อนๆ สมาชิก
เรามาดูกันว่าจุดชมดอกซากุระบานงามๆ มีที่ไหนบ้าง
CENTRAL TOKYO
1. Shinjuku Gyoen
สวนสาธารณะ Shinjuku Garden เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่
ที่นี่เค้ามีการจัดสวนหลายรูปแบบ ทั้งแบบญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศษ
แต่ละสวนจะมีดอกไม้หลากหลายชนิดปลูกไว้เต็มไปหมด
สำหรับช่วงดอกซากุระบาน สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์
เพราะว่าเค้ามีต้นซากุระกว่า 1,500 ต้น จาก 12 สายพันธุ์
และที่สำคัญแต่ละสายพันธุ์จะบานไม่ตรงกัน
ทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้มีดอกซากุระบานยาวนานกว่าที่อื่นๆ
การเดินทางมายังสวนสาธารณะ Shinjuku Garden
นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Marunouchi มาลงที่สถานี Shinjuku-gyoenmae แล้วเดินต่ออีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
2. Ueno Park
สวนสาธารณะอุเอะโนะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ถูกจัดให้เป็นจุดชมดอกซากุระสวยๆ ในกรุงโตเกียว
เพราะที่นี่นอกจากจะมีต้นซากุระสวยๆ แล้ว ยังมีต้นไม้ ดอกไม้ประเภทอื่นๆ อีกกว่า 8,000 ชนิด
และนอกจากต้นไม้ดอกไม้แล้ว บริเวณนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น
วัด ศาลเจ้า หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ
การเดินทางสู่สวนสาธารณะอุเอะโนะ
นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Ueno Station แล้วเดินเข้าไปในสวนสาธารณะได้เลย
3. Chidorigafuchi Ryokudo
Chidorigafuchi Ryokudo เป็นทางเดินยาวราว 700 เมตร
ซึ่งลัดเลาะคูเมืองของพระราชวังอิมพีเรียล
ที่บริเวณนี้ถือเป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมในการมาเดินเที่ยวชมดอกซากุระบาน
ในแต่ละปีระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน จะมีซากุระราว 250 ต้นบานสะพรั่ง
และจะมีการจัดงานเทศกาลชื่อว่า Chiyoda Sajura-Matsuri Festival
ซึ่งในยามค่ำคืนจะมีการตกแต่งแสงไฟไว้อย่างสวยงาม
รวมถึงมาร่วมเก็บภาพดอกซากุระบานสะท้อนสายน้ำแบบงดงามร่วมกัน
และกิจกรรมยอดนิยมก็คือการเช่าเรือพายเล่นในคูเมือง
การเดินทางสู่ Chidorigafuchi Ryokudo
นั่งรถไฟลงที่สถานี Kudanshita Station Exit 2 แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที หรือ จากสถานี Hanzomon Station Exit 5
4. Sumida Park
สวนสาธารณะ Sumida Park เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีคนนิยมมาชมความงามของซากุระบาน
นอกจากนั้นใกล้ๆ กับจุดชมซากุระบาน ยังมีตึกหน้าตาแปลกๆ ที่นักท่องเที่ยวชอบมาเก็บภาพกัน
อาคารหลังนี้มีชื่อว่า Asahi Breweries Headquarters
แผนที่และการเดินทางสู่ Sumida park
นั่งรถไฟลงที่สถานี Tokyo Skytree Station แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 500 เมตร
5. Yoyogi Park
สวนโยะโยะงิ เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโตเกียว
สวนโยะโยะงิเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่เป็นที่นิยม
โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้พื้นที่ในการเล่นดนตรี
หรือแสดงผลงานศิลปะของตนเองได้
ภายในสวนมีถนนสำหรับขี่จักรยาน และมีรถจักรยานให้บริการเช่า
การเดินทางมายังสวนโยะโยะงิ
ให้ลงรถไฟที่สถานี Harajuku Station เดินออกมาก็จะเห็นสวนโยะโยะงิตั้งอยู่ติดกับสถานีเลย
6. Asukayama Park
สวนสาธารณะ Asukayama Park เป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยอีกแห่งของโตเกียว
ถึงแม้ความอลังการจะเทียบไม่ได้กับสวนอุเอะโนะ หรือ ชินจูกุ
แต่ที่สวนแห่งนี้ก็ไม่ได้วุ่นวายเหมือนสวนอื่นๆ ทำให้การเที่ยวชมเก็บภาพดอกซากุระเป็นไปอย่างสบาย
และสถานที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 3 แห่งที่ท่านโชกุนที่ 8 ได้ปลูกต้นซากุระไว้ เมื่อปี พ.ศ. 2263
ซึ่งทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
การเดินทางสู่สวนสาธารณะ Asukayama Park
ให้ลงรถไฟที่สถานี Oji Station จะใกล้ที่สุด
ถึงแม้ความอลังการจะเทียบไม่ได้กับสวนอุเอะโนะ หรือ ชินจูกุ
แต่ที่สวนแห่งนี้ก็ไม่ได้วุ่นวายเหมือนสวนอื่นๆ ทำให้การเที่ยวชมเก็บภาพดอกซากุระเป็นไปอย่างสบาย
และสถานที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 3 แห่งที่ท่านโชกุนที่ 8 ได้ปลูกต้นซากุระไว้ เมื่อปี พ.ศ. 2263
ซึ่งทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
การเดินทางสู่สวนสาธารณะ Asukayama Park
ให้ลงรถไฟที่สถานี Oji Station จะใกล้ที่สุด
7. Meguro River
ต้นซากุระกว่า 800 ต้น ที่ปลูกเรียงรายตามสองข้างของแม่น้ำ Meguro River
จะผลิดอกเป็นสีชมพูสวยงามเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร
ทำให้บรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำแห่งนี้ช่างงดงาม
เหมาะกับการมาเดินเที่ยวชมความงามของดอกซากุระอีกแห่งในกรุงโตเกียว
การเดินทางมาที่แม่น้ำเมงูโระ (Meguro River)
นั่งรถไฟไปลงที่สถานี NakaMeguro Station แล้วเดินมุ่งหน้าสู่แม่น้ำ Meguro River ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
8. Inokashira Park
สวนอิโนะกะชิระเป็นสวนสาธาณะตั้งอยู่ระหว่างเมืองมุซะชิโนะ และเมืองมิตะกะ จังหวัดโตเกียว
มีบึงอิโนะกะชิระเป็นแหล่งต้นน้ำหลักของแม่น้ำคันดะ
ชาวญี่ปุ่นมักมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด
และที่นี่ก็มีดอกซากุระบานตามริมบึงอิโนะกะชิะ ซึ่งดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก
ทำให้ที่สวนแห่งนี้กลายเป็นอีกจุดที่ชมดอกซากุระบานได้อย่างสวยงามในช่วงเทศกาลฮะนะมิ
หรือช่วงเทศกาลที่ดอกซากุระบานนั่นเองครับ
การเดินทางมายังสวนสาธารณะอิโนะกะชิระ
นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kichijoji Station แล้วเดินเท้าต่ออีกแค่ประมาณ 5 นาที
มีบึงอิโนะกะชิระเป็นแหล่งต้นน้ำหลักของแม่น้ำคันดะ
ชาวญี่ปุ่นมักมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด
และที่นี่ก็มีดอกซากุระบานตามริมบึงอิโนะกะชิะ ซึ่งดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก
ทำให้ที่สวนแห่งนี้กลายเป็นอีกจุดที่ชมดอกซากุระบานได้อย่างสวยงามในช่วงเทศกาลฮะนะมิ
หรือช่วงเทศกาลที่ดอกซากุระบานนั่นเองครับ
การเดินทางมายังสวนสาธารณะอิโนะกะชิระ
นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kichijoji Station แล้วเดินเท้าต่ออีกแค่ประมาณ 5 นาที
9. Koishikawa Korakuen
สวนสาธารณะโคอิชิคาวะ โคระคุเองเป็นสวนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ประกอบไปด้วยบ่อหินจำนวน 3 บ่อที่รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วย รวมถึงภูเขาหินที่มนุษย์สร้างขึ้นตามแบบฉบับของสวนในสมัยเอโดะ ที่สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และ เป็นจุดชมความงามของดอกซากุระได้งดงามอีกแห่ง แต่ทั้งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ผู้คนจะหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีทั้งสีแดงของต้นเมเปิ้ลและสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วย
เปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 300 เยน
การเดินทางมายังสวนสาธารณะโคอิชิคาวะ โคระคุเอง
จากสถานีรถไฟอิดาบาชิทางออกประตู C3 ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 5-10 นาทีเท่านั้นก็จะถึงสวนแล้ว
10. Koishikawa Botanical Garden
สวนพฤกษศาสตร์โคอิชิคาว่า เป็นสวนสาธารณะที่อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยโตเกียว
ที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มีต้นไม้มากกว่า 4,000 ชนิด ให้ได้เดินชมกัน
จึงทำให้ตลอด 4 ฤดูกาลเราจะต้องได้ชมดอกไม้แต่ละประเภทผลิดอกให้ชมกันอยู่เรื่อยๆ
แต่หนึ่งในประเภทของต้นไม้เหล่านั้น ก็คือต้นดอกซากุระ
ซึ่งที่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกจุดที่สามารถมาเที่ยวชมความงามของดอกซากุระในช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายนได้อีกแห่ง และ สวยไม่แพ้ที่อื่นๆ เลย แต่ที่นี่เค้าปิดวันจันทร์นะครับ
การเดินทางมายังสวนพฤกษศาสตร์โคอิชิคาว่า
ลงรถไฟที่สถานี Hakusan Station แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 7 นาที
OUTSIDE TOKYO
11. Showa Kinen Koen
สวนสาธารณะ Show Kinen Koen ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Shinjuku Station ราว 30 นาที
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากๆ หากจะมาใช้เวลาเดินเที่ยวซักครึ่งวันก็ยังสามารถทำได้
เพราะด้วยขนาดของสวนสาธารณะ และ จุดสวยๆ หลายจุด ที่ต้องหยุดแวะแชะภาพไปได้เรื่อยๆ
ค่าเข้าชม 400 เยน ต่อคน
การเดินทางมายังสวนสาธารณะ Showa Kinen Koen
เนื่องจากสวนสาธารณะแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ ทำให้การเดินทางมาลงที่สวนทำได้หลายทาง แต่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tachikawa Station แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 10 นาที ก็ถึงทางเข้า
โรงแรมที่พักใกล้สถานี Tachikawa Station
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากๆ หากจะมาใช้เวลาเดินเที่ยวซักครึ่งวันก็ยังสามารถทำได้
เพราะด้วยขนาดของสวนสาธารณะ และ จุดสวยๆ หลายจุด ที่ต้องหยุดแวะแชะภาพไปได้เรื่อยๆ
ค่าเข้าชม 400 เยน ต่อคน
การเดินทางมายังสวนสาธารณะ Showa Kinen Koen
เนื่องจากสวนสาธารณะแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ ทำให้การเดินทางมาลงที่สวนทำได้หลายทาง แต่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tachikawa Station แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 10 นาที ก็ถึงทางเข้า
โรงแรมที่พักใกล้สถานี Tachikawa Station
12. Koganei Park
สวนสาธารณะ Koganei Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อีกแห่งของกรุงโตเกียว
ชาวญี่ปุ่นนิยมมานั่งพักผ่อนกันในสวนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เพราะว่าที่สวนสาธารณะแห่งนี้ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้จำนวนมาก ที่โดดเด่นก็เป็นต้นบ๊วย และ ต้นซากุระ
ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมซากุระงามยอดนิยมอีกแห่งของกรุงโตเกียว
การเดินทางมายังสวนสาธารณะ Koganei Park
นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Hanakoganei Station แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 15 นาที
ชาวญี่ปุ่นนิยมมานั่งพักผ่อนกันในสวนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เพราะว่าที่สวนสาธารณะแห่งนี้ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้จำนวนมาก ที่โดดเด่นก็เป็นต้นบ๊วย และ ต้นซากุระ
ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมซากุระงามยอดนิยมอีกแห่งของกรุงโตเกียว
การเดินทางมายังสวนสาธารณะ Koganei Park
นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Hanakoganei Station แล้วเดินเท้าอีกประมาณ 15 นาที
13. Mount Takao
FUKUSHIMA (FUKUSHIMA PREFECTURE)
14. Mt.Hanamiyama
เนินเขาเตี้ยๆ บริเวณนี้เป็นของชาวบ้านทั่วไปที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ซึ่งพวกเค้าได้สรรหาต้นซากุระหลากสายพันธ์มาปลูกันไว้เป็นจำนวนมาก และเมื่อเวลาผ่านไป ต้นซากุระเหล่านี้ก็เติบโต
และผลิดอกสวยงามไปทั่วเนินเขาแห่งนี้ จนในภายหลังชาวบ้านได้เปิดพื้นที่บริเวณนี้
ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จนปัจจุบันนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันที่เนินเขา Mt.Hanamiyama
เป็นจำนวนมากต่อวันในช่วงปลายเมษายน ถึง ต้นพฤษภาคม
นอกจากนั้นชาวบ้านที่นี่เค้ายังปลูกต้นนะโนะฮานะ หรือ เรียกอีกชื่อว่า เรปซีด (Rapeseed / Canola)
เป็นดอกไม้สีเหลืองอร่าม ดูแล้วสวยงามตัดกับสีขาว และ ชมพูอ่อนของต้นซากุระมากๆ
แผนที่และการเดินทางเริ่มต้นจากกรุงโตเกียว :
KAKUNODATE (AKITA PREFECTURE)
15. Kakunodate
FUKUOKA (FUKUOKA PREFECTURE)
16. Fukuoka Castle Ruins
SHIBATA (MIYAGI PREFECTURE)
17. Funaokajoshi Park (Funaoka Castle Ruin Park)
สวนฟุนะโอกา ตั้งอยู่บนเนินเขา ที่นี่เป็นอีกจุดชมดอกซากุระงามอีกแห่งที่ติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น
ในช่วงกลางเมษายนของทุกปีเป็นช่วงที่ดอกซากุระกว่า 1,000 ต้นจะบานไปทั่วเขาลูกเล็กๆ ซึ่งไฮไลท์ที่ได้รับความนิยมในช่วงซากุระบานคือการนั่งรถรางสโลปคาร์ ลอดผ่านอุโมงค์ซากุระและทุ่งดอกไม้นานาชนิด ระหว่างขึ้นไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่ตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นระยะทางราว 300 เมตร
(ค่าโดยสารสโลปคาร์คนละ 250 เยน / เที่ยว)
การเดินทางมายังสวนฟุนะโอกา
สวนฟุนะโอกาตั้งอยู่ในจังหวัด Miyagi ดังนั้นหากเริ่มจากตัวเมือง Sendai ซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัดนี้ ให้นั่งรถไฟ JR ที่สถานี Sendai สาย JR Tohoku ไปลงที่สถานี Funaoka ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที แล้วเดินเท้าต่ออีกประมาณ 15 นาที
INA (NAGANO PREFECTURE)
18. Takato Castle Ruins Park
HIROSAKI (AOMORI PREFECTURE)
19. Hirosaki park
KAWAZU (ZHIZUOKA PREFECTURE)
20. Kawazu
ต้นซากุระริมสองข้างทางแม่น้ำ Kawazu |
The Original Tree of Kawazu-Zakura |
เมือง Kawazu เป็นเมืองที่ดอกซากุระบานเร็วกว่าเมืองอื่นๆ ประมาณเดือนนึง หรือ ราวเดือนกุมภาพันธ์
เมืองนี้มีต้นซากุระราวๆ 8,000 ต้น แต่มีต้นซากุระที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองชื่อว่า
The Original Tree of Kawazu-Zakura ซึ่งเป็นซากุระขนาดใหญ่ มีอายุกว่า 60 ปี
นอกจากนั้นสองข้างทางแม่น้ำ Kawazu ยังมีต้นซากุระกว่า 800 ต้นปลูกเรียงรายดูแล้วสวยงามมาก
ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับที่ต้นซากุระ ตั้งแต่ 18.00 - 21.00 น.
ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
การเดินเที่ยวชมดอกซากุระในเมือง Kawazu ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
แผนที่และการเดินทางเริ่มต้นจากกรุงโตเกียว :
จากโตเกียวนั่งรถไฟ JRประมาณ 2 ชั่วโมง จากสถานี Tokyo Station นั่งสาย Tokaido / Sanyo Shinkansen (สายสีน้ำเงิน) ไปลงที่สถานี Atami Station ใช้เวลาประมาณ 43 นาที แล้วนั่งสาย ito line (สีเขียว) ต่อไปถึงสถานี Kawazu Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 7 นาที จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 3 นาที ก็จะเห็นแม่น้ำ Kawazu ซึ่งสองฝั่งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยต้นซากุระ ค่ารถไฟประมาณ 6,090 เยน ต่อเที่ยว หรือ ประมาณ 1,650 บาท
เมืองนี้มีต้นซากุระราวๆ 8,000 ต้น แต่มีต้นซากุระที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองชื่อว่า
The Original Tree of Kawazu-Zakura ซึ่งเป็นซากุระขนาดใหญ่ มีอายุกว่า 60 ปี
นอกจากนั้นสองข้างทางแม่น้ำ Kawazu ยังมีต้นซากุระกว่า 800 ต้นปลูกเรียงรายดูแล้วสวยงามมาก
ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับที่ต้นซากุระ ตั้งแต่ 18.00 - 21.00 น.
ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
การเดินเที่ยวชมดอกซากุระในเมือง Kawazu ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
แผนที่และการเดินทางเริ่มต้นจากกรุงโตเกียว :
จากโตเกียวนั่งรถไฟ JRประมาณ 2 ชั่วโมง จากสถานี Tokyo Station นั่งสาย Tokaido / Sanyo Shinkansen (สายสีน้ำเงิน) ไปลงที่สถานี Atami Station ใช้เวลาประมาณ 43 นาที แล้วนั่งสาย ito line (สีเขียว) ต่อไปถึงสถานี Kawazu Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 7 นาที จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 3 นาที ก็จะเห็นแม่น้ำ Kawazu ซึ่งสองฝั่งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยต้นซากุระ ค่ารถไฟประมาณ 6,090 เยน ต่อเที่ยว หรือ ประมาณ 1,650 บาท
YOSHINO (NARA PREFECTURE)
21. Mt. Yoshino
ภูเขาโยชิโนะ (Mt.Yoshino) เป็นสถานที่อีกแห่งของญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ในกลุ่ม "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบูญเทือกเขาคิอิ" นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระที่งดงามอีกแห่งหนึ่งด้วยจำนวนต้นซากุระกว่า 30,000 ต้น จากกว่า 200 สายพันธุ์ ทำให้ที่นี่เป็นอีกแห่งที่มีซากุระบานเป็นระยะเวลาค่อนข้างนานคือราวปลายมีนาคมถึงกลางเมษายนของทุกปี
การเดินทางมายังภูเขาโยชิโนะ (Mt.Yoshino)
ภูเขาโยชิโนะ ตั้งอยู่ในจังหวัดนารา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวราว 5 ชั่วโมง กว่าๆ หากเดินทางด้วยรถไฟ Tokyo Station ---- 2 ชม. 13 นาที (4 ป้าย) ---> Kyoto Station ---- 52 นาที (4 ป้าย) · ชานชาลาที่ 1,2 ---> Kashiharajingumae Station ---- 40 นาที (9 ป้าย) · ชานชาลาที่ 4,5 ----> Yoshino Station หลังจากนั้นให้นั่งรถ Shuttle Bus ไปลงที่ป้าย Naka Senbon ซึ่งจะมีให้บริการในช่วงเดือน มีนาคม เมษายน แต่ถ้าก่อนหน้านั้น หรือ หลังจากนั้นคงต้องใช้บริการแท็กซี่ หรือ หากจะเดินก็ระยะทางประมาณ 4.4 กม.
HOKKAIDO (HOKKAIDO PREFECTURE)
ในช่วงราวปลายเดือนเมษายนเป็นต้นไป ถึง ต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ดอกซากุระบนเกาะฮอกไกโดจะเริ่มทยอยบานให้นักท่องเที่ยวได้ไปเดินเที่ยวชมความงามกัน ซึ่งบนเกาะฮอกไกโด มีจุดชมดอกซากุระบานอยู่หลายแห่ง แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนติดอันดับ Top 100 ของจุดชมซากุระที่งดงามในญี่ปุ่น ก็มี 2 แห่ง คือ บริเวณ ถนน Sakura Namiki Street และ สวนสาธารณะ Matsumae Park
22. Sakura Namiki Street (Shinhidaka, Hokkaido)
23. Matsumae Park (Matsumae, Hokkaido)