- เมื่อการเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ แล้วยิ่งเมื่อทางการญี่ปุ่นยกเว้นให้นักท่องเที่ยวจากไทยสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านานถึง 15 วัน แล้วมีหรือที่เราจะไม่ใช้สิทธิ์นั้นกันให้เต็มที่ ซึ่งก่อนการเดินทางไปเที่ยวยังประเทศที่ถือเป็นอันดับหนึ่งที่นักท่องเที่ยวบ้านเรานิยมไป เราควรจะรู้เอาไว้สักนิดว่าประเทศเขาเป็นยังไร มีความน่าสนใจแบบไหน แล้วจะได้ตัดสินใจถูกว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นดี นอกจากนี้และก็จะแนะเทคนิคการเตรียมตัวเล็กๆ น้อยๆ ก่อนการเดินทางไปผจญภัยในแดนอาทิตย์อุทัย ข้อมูลเล็กน้อยนี้อาจจะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย
- กฏ มารยาท 10 ข้อที่ควรรู้ก่อนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น คลิกอ่านทันใด
- เรียนรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศของประเทศญี่ปุ่นก่อนเพื่อสะดวกในการวางแผนเดินทาง คลิกอ่านทันใด
JAPAN UPDATE :
รายงานพยากรณ์ ดอกซากูระบานในแต่ละเมืองของประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2015
Tokyo Metro ประกาศให้บริการสัญญาน Free Wifi ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน Tokyo metro รวม 143 แห่ง เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 โดยเชื่อมั่นว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งชาวญี่ปุ่นเองจะเข้ามาใช้บริการกันอย่างมาก และเป็นส่วนหนึ่งของบริการพื้นฐานที่เตรียมไว้ต้อนรรับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2020 อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกดูที่นี่ http://www.tokyometro.jp/en/tips/connectivity/freewifi/
ข้อมูลเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ พร้อมที่พักใกล้ๆ มองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิชัดเจน
ญี่ปุ่น (JAPAN)
แผนที่ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ญี่ปุ่นประกอบไปได้หมู่เกาะน้อยใหญ่มากมาย โดยติดกับคาบสมุทรเกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีทะเลญี่ปุ่นกั้น ส่วนทางทิศเหนือ ติดกับประเทศรัสเซีย มีทะเลโอค็อตสค์ เป็นเส้นแบ่งแดน ญี่ปุ่นแบ่งได้ออกเป็น 4 เกาะหลักๆ คือ
ฮอกไกโด เกาะใหญ่ทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น เป็นดินแดนที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เกาะแห่งนี้เป็นดินแดนที่สวยงาม สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้ง ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะมีความน่าสนใจและความสวยงามแตกต่างกันออกไป ซึ่งความสวยงามนี้เกิดขึ้นจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เมืองที่นักท่องเที่ยวรู้จักและนิยมไป อาทิ ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ โอตารุ วัคคาไน ฟุราโนะ เป็นต้น
ฮอนชู เกาะใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง นครโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นก็อยู่ที่เกาะนี้ เกาะหลักแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ วัดวาอาราม ศาลเจ้าเก่า และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายที่ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมที่แปลกให้ได้ดู มีหลายเมืองที่นักท่องเที่ยวรู้จักและนิยมไป อาทิ โตเกียว นิกโก้ โยโกฮาม่า นาโงย่า โอซาก้า เกียวโต โกเบ ฮิโรชิม่า เป็นต้น
ชิโกกุ เป็นเกาะที่เล็กที่สุดในบรรดาเกาะหลัก จึงไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก จึยังคงความสวยงามของธรรมชาตไว้ได้อย่างสมบูรณ์ กลายเป็นเกาะที่มีความเงียบสงบเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ เมืองที่นักท่องเที่ยวรู้จักและนิยมไป อาทิ มัตสึยามะ เป็นต้น
คิวชู เป็นเกาะใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น เมืองบนเกาะคิวชูนี้จะไม่เหมือนกับญี่ปุ่นแถวเกาะใหญ่ ด้วยอยู่ใกล้กับเกาหลีและจีนจึงได้รับวัฒนธรรม ศิลปะ อาหารการกิน มาอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังคงมีความเป็นอยู่ญี่ปุ่นอยู่เป็นส่วนมาก อากาศแถบนี้จะอบอุ่นกว่าแถบอื่นของญี่ปุ่นจึงทำให้สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เมืองที่นักท่องเที่ยวรู้จักและนิยมไป อาทิ ฟุกุโอกะ คาโงะชิม่า คุมาโมโตะ นางาซากิ โอกินาว่า เป็นต้น
ฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาล ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็จะมีความน่าสนใจและสวยงามของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวแตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละฤดูกาลถูกแบ่งออกดังนี้
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อากาศอบอุ่น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 13-25 องศาเซลเซียส
- ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศร้อนชื้นโดยมีช่วงฤดูฝนสั้น ๆ ประมาณ 1 เดือน ในช่วงต้นฤดู อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อากาศอบอุ่น โดยมีพายุไต้ฝุ่นมากในช่วงเดือนกันยายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 22-27 องศาเซลเซียส
- ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศหนาว มีหิมะตกมากทางภาคเหนือของประเทศและฝั่งทะเลญี่ปุ่น ส่วนทางใต้และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก อากาศจะอบอุ่นกว่า อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 05-07 องศาเซลเซียส
เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
1. วางแผนก่อนการเดินทาง ตั้งแต่ว่า จะไปกี่วัน ไปที่ไหนบ้าง จะทำอะไรบ้าง เพราะจะสามารถทำให้เราวางแผนการเดินทางและสามารถตระเตรียมแผนสำรองได้ เรื่องที่พัก เมื่อถึงเวลาเดินทางไปจริงจะได้ไม่ต้องวุ่นวายมาก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวกันเองมักจะนิยมไปตาม Guide Book ซึ่งเดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมาย
2. หาตั๋วเครื่องบิน อันนี้สำคัญสุด เพราะถ้าไม่มีตั๋วเครื่องบินแล้วเราก็คงไม่สามารถไปไหนเลย และเดี๋วนี้ก็มีโปรชั่นต่างๆ ออกมากเรียกความสนใจเรากันอยู่เนืองๆ จึงไม่อยากนักที่จะหาตั๋วเครื่องบินที่เหมาะกับเราสักที่สองที่
3. หาข้อมูลก่อนการเดินทาง เป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูอง์ประกอบหลายๆ ด้านประกอบเพื่อใช้ในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วงที่จะไปนั้นอยู่ในช่วงฤดูไหน เหมาะกับการไปท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ หรือไม่ เพราะแต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่นก็จะมีภูมิอากาศแตกต่างกันออกไป จะได้เป็นข้อมูลในการเตรียมเสื้อผ้าไปด้วย
- สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีช่วงเวลา เปิด-ปีด ทำการ ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัฑณ์ โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ซึ่งสองอย่างหลังนี้ หลายแห่งจะมีช่วงเวลาปิดปรับปรุงเพื่อทำการฟ์้นฟู ดูแลรักษา ให้คงสภาพเอาไว้ หรือทำให้ดูดีกว่าเดิมก็ตาม ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ไว้ก่อน
4. ศึกษาเส้นทางการเดินทาง เมื่อมีจุดหมายปลายทางแล้ว ก็ควรศึกษาเส้นทางด้วยว่า การเดินทางไปในแต่ละที่นั้นจะต้องเลือกการเดินทางแบบไหนถึงจะสะดวก ประหยัดเวลา ลและค่าใช้จ่าย ด้วยในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีตัวเลือกในเรื่องของการเดินทางที่หลากหลาย แต่ที่สำคัญควรมีแผนที่ติดตัวไปด้วยจะมีที่สุด
5. หาที่พัก ซึ่งเดี๋ยวก็สามารถจองได้ตั้งแต่ยังไม่เดินทาง เพียงรู้สถานที่ที่จะไปก็สามารถจองที่พักที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวได้ซึ่งมีเว็บไซต์เปิดให้บริการอยู่มากมาย หรือใครจะสะดวกหาตอนเดินทางแล้วก็ได้
6. สิ่งต้องเตรียมก่อนออกเดินทาง มาถึงเรื่องข้าวของเราต้องเตรียมกันบ้าง รวมทั้งเตรียมตัวเราด้วยอาจจะเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด
- ภาษา คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษจะใช้ตามสถาที่สำคัญ เช่น โรงแรม สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว
- กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน บางคนใช้กระเป๋าใบใหญ่แบบมีล้อลาก เพื่อความสะดวกสบาย บางคนก็เลือกใช้เป็นเป้สะพายหลังที่สะดวกกับเวลาต้องเดินทางหลายที่ แต่ที่ต้องนึกถึงก่อนคือสะดวกเวลาเราเดินทางไปในที่ต่างๆ หรือไม่ ในกรณีไปหลายที่
- เครื่องแต่งกาย ควรพิจารณาจากช่วงเวลาที่เดินทางไป แต่ก็คิดเผื่อด้วยเสมอว่าอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
- ยารักษาโรค ใครที่มีโรคประจำต้องเตรียมยาที่จำเป็นต้องใช้ไปให้พร้อม ให้พิมพ์สรุปชื่อโรค-ชื่อยาและขนาดยาเป็นภาษาอังกฤษติดตัวไปด้วยเสมอ เพื่อป้องกันการสื่อสารไม่ตรงกัน
- เอกสารที่ต้องใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) เอกสารส่วนบุคคล ตั๋วเครื่องบิน เอกสารเกี่ยวกับที่พัก โรงแรม แผนที่ หนังสือนำเที่ยว จะต้องคำนึงว่าอะไรจำเป็นสำหรับการเดินทาง
- ระบบไฟฟ้า พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถต่อไปใช้ได้ทันที แต่ทางที่ดีก็ควรมี Adaptor แปลงกำละงไฟ ติดไปด้วยก็ดี
- เบ็ดเตล็ด ของที่จำเป็นสำหรับตัวคุณเอง ไม่ว่าจะ โทรศัพท์ กล้องถ่ายภาพ และอื่นๆ
2. หาตั๋วเครื่องบิน อันนี้สำคัญสุด เพราะถ้าไม่มีตั๋วเครื่องบินแล้วเราก็คงไม่สามารถไปไหนเลย และเดี๋วนี้ก็มีโปรชั่นต่างๆ ออกมากเรียกความสนใจเรากันอยู่เนืองๆ จึงไม่อยากนักที่จะหาตั๋วเครื่องบินที่เหมาะกับเราสักที่สองที่
3. หาข้อมูลก่อนการเดินทาง เป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูอง์ประกอบหลายๆ ด้านประกอบเพื่อใช้ในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วงที่จะไปนั้นอยู่ในช่วงฤดูไหน เหมาะกับการไปท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ หรือไม่ เพราะแต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่นก็จะมีภูมิอากาศแตกต่างกันออกไป จะได้เป็นข้อมูลในการเตรียมเสื้อผ้าไปด้วย
- สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีช่วงเวลา เปิด-ปีด ทำการ ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัฑณ์ โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ซึ่งสองอย่างหลังนี้ หลายแห่งจะมีช่วงเวลาปิดปรับปรุงเพื่อทำการฟ์้นฟู ดูแลรักษา ให้คงสภาพเอาไว้ หรือทำให้ดูดีกว่าเดิมก็ตาม ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ไว้ก่อน
4. ศึกษาเส้นทางการเดินทาง เมื่อมีจุดหมายปลายทางแล้ว ก็ควรศึกษาเส้นทางด้วยว่า การเดินทางไปในแต่ละที่นั้นจะต้องเลือกการเดินทางแบบไหนถึงจะสะดวก ประหยัดเวลา ลและค่าใช้จ่าย ด้วยในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีตัวเลือกในเรื่องของการเดินทางที่หลากหลาย แต่ที่สำคัญควรมีแผนที่ติดตัวไปด้วยจะมีที่สุด
5. หาที่พัก ซึ่งเดี๋ยวก็สามารถจองได้ตั้งแต่ยังไม่เดินทาง เพียงรู้สถานที่ที่จะไปก็สามารถจองที่พักที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวได้ซึ่งมีเว็บไซต์เปิดให้บริการอยู่มากมาย หรือใครจะสะดวกหาตอนเดินทางแล้วก็ได้
6. สิ่งต้องเตรียมก่อนออกเดินทาง มาถึงเรื่องข้าวของเราต้องเตรียมกันบ้าง รวมทั้งเตรียมตัวเราด้วยอาจจะเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด
- ภาษา คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษจะใช้ตามสถาที่สำคัญ เช่น โรงแรม สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว
- กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน บางคนใช้กระเป๋าใบใหญ่แบบมีล้อลาก เพื่อความสะดวกสบาย บางคนก็เลือกใช้เป็นเป้สะพายหลังที่สะดวกกับเวลาต้องเดินทางหลายที่ แต่ที่ต้องนึกถึงก่อนคือสะดวกเวลาเราเดินทางไปในที่ต่างๆ หรือไม่ ในกรณีไปหลายที่
- เครื่องแต่งกาย ควรพิจารณาจากช่วงเวลาที่เดินทางไป แต่ก็คิดเผื่อด้วยเสมอว่าอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
- ยารักษาโรค ใครที่มีโรคประจำต้องเตรียมยาที่จำเป็นต้องใช้ไปให้พร้อม ให้พิมพ์สรุปชื่อโรค-ชื่อยาและขนาดยาเป็นภาษาอังกฤษติดตัวไปด้วยเสมอ เพื่อป้องกันการสื่อสารไม่ตรงกัน
- เอกสารที่ต้องใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) เอกสารส่วนบุคคล ตั๋วเครื่องบิน เอกสารเกี่ยวกับที่พัก โรงแรม แผนที่ หนังสือนำเที่ยว จะต้องคำนึงว่าอะไรจำเป็นสำหรับการเดินทาง
- ระบบไฟฟ้า พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถต่อไปใช้ได้ทันที แต่ทางที่ดีก็ควรมี Adaptor แปลงกำละงไฟ ติดไปด้วยก็ดี
- เบ็ดเตล็ด ของที่จำเป็นสำหรับตัวคุณเอง ไม่ว่าจะ โทรศัพท์ กล้องถ่ายภาพ และอื่นๆ
7. กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ควรจำหมายเลขเหล่านี้เพราะจะสามารถช่วยคุณได้
- หมายเลข 110 แจ้งเหตุด่วน เหตุร้ายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- หมายเลย 119 เมื่อเกิดไฟไหม้หรือต้องการเรียกรถพยาบาลตลอดจนหน่วยกู้ภัย
สาระอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ญี่ปุ่นแจก Wi-Fi ให้ใช้ฟรี ใช้ได้นาน 14 วัน เป็นโครงการของรัฐบาลญี่ปุ่นและบริษัท เอ็นทีที (NTT) โดยนักท่องเที่ยวจะต้องโหลดแอป NAVITIME for Japan Travel ติดตั้งไว้บนสมาร์ทโฟนก่อน ใช้ได้ทั้งบน iOS , Android แล้วนำพาสปอร์ตของท่านไปแสดง ณ จุดแจกฟรี Wi-Fi ซึ่งเข้าไปดูจุดรับพาสเวิร์ดได้ที่ Free Wi-Fi ซึ่งบริการนี้ึครอบคลุมตั้งแต่ บริเวณด้านตะวันออกของญี่ปุ่น รวมไปถึงเมืองสำคัญ เช่น โตเกียว, ฮาโกเนะ, ภูเขาไฟฟูจิ, โยโกฮามา, นากาโน่, นิกโกะ, คุซัทสึ, โทโฮคุ, ฮอกไกโด และฟุกุชิมะ ทั้งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ขอบคุณภาพประกอบจาก